หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ.2566 ฉบับนี้ รับเสียงปี่กลองการเมืองดังกระหึ่ม ...*...
พลันที่ ประตูประชาธิปไตยเปิด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นวันแรก ของ วันเปิดรับสมัคร สส. 400 เขต ทั่วประเทศ บรรยากาศโดยทั่วไปก็คึกคักขึ้นมาทันที บารอน พาไปดูพื้นที่ กทม. ภาพที่เห็น พี่น้อง 2 ป. คือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ พาลูกพรรคไปสมัคร ส.ส.กทม. ครบทั้ง 33 เขต เหมือนปลดแอกภาพเผด็จการ เดินบนถนนประชาธิปไตยอย่างเต็มตัว ...*...
ไม่ต้องกลัว ติ่งเผด็จการ ที่ยังคงให้ 250 ส.ว.ร่วมสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งสุดท้าย ในยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ขั้วการเมืองไหนจะเป็นรัฐบาล ต้องสามารถ รวบรวมเสียง ส.ส.ให้ได้ 251 เสียงขึ้นไป บรรทัดนี้ บารอน มั่นใจ ไม่มี ส.ว.คนใด ฝืนกระแสประชาธิปไตย ไปเลือกขั้วการเมืองเสียงข้างน้อยเป็นรัฐบาลแน่นอน ครั้งก่อน ที่สนับสนุนลุงตู่เป็นนายกฯ ก็เพราะ ลุงตู่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯได้ 253 เสียง เกินกึ่งหนึ่งนะครับ เลิกใช้วาทกรรมโจมตีกันไปมาเสียที เพื่อที่ จะก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน ...*...
เป็นทั้งสมาชิกพรรคการเมือง และ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค แถม เป็นแคนดีเดทนายกรัฐมนตรี ของ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคการเมืองน้องใหม่ ไม่รู้จะได้ ส.ส. ถึง 25 เสียง เพื่อที่ พอเพียงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ สำหรับคนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สู้ยอมถอดเครื่องแบบทหาร เป็นนักการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ ประเด็นที่ว่า ไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อหมายเลขหนึ่ง ทำให้ ลุงตู่ดูไม่สง่างาม ที่นี่ บารอน ว่า ดูจะคุกคามสิทธิส่วนบุคคลมากไปครับ ...*...
เช่นเดียวกันกับ “ลูกอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กับ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ไม่ต่างอะไรกับลุงตู่ เพราะ ทั้งคู่ต่างเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และ เป็น สองในสามแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดย ไม่ปรากฏรายชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เช่นกัน ...*...
ก็ขนาด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่สมัครเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เคยหารือกับ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชวนกันไว้ว่าจะไม่เป็น สส.บัญชีด้วยกัน เพราะมั่นใจว่า ต้องมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หาก ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการเปิดทางให้สมาชิกพรรคเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หยั่งงี้บัญชีรายชื่อ ส.ส.ยังไม่ค่อยจะลงตัวเลยครับ...*...
ที่มีชื่อ นายนิพนธ์ บุญญามณี อยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ บารอน ได้ยินมาว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้สมัคร หากพรรคได้ร่วมรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี มีเก้าอี้รัฐมนตรีแน่นอน ถึงตอนนั้น จะประกาศลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใครที่มีชื่อหลุดจากบัญชีต่อจากคนสุดท้าย สบายใจล่วงหน้าไว้ได้เลย ราชรถมาเกยเข้าสภาฯ ...*...
ตอกย้ำความเป็นประชาธิปไตย ของ ลุงตู่ เข้าสู่สนามเลือกตั้งเต็มตัว ยังเดินทางไปศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เป็นวันที่สอง เมื่อวันวาน ไปให้กำลังใจ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นไปจับสลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เบอร์คู่สวยจำง่าย เบอร์ 22 เช่นเดียวกันกับ “ลูกอิ๊งค์” และ เศรษฐา ทวีสิน ไปเชียร์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหร้าพรรคเพื่อไทย พรรคนี้ได้เบอร์ 29 ไปครับ ...*...
ส่วน “ลุงป้อม” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปจับเบอร์ด้วยตัวเอง ได้เบอร์ 37 เป็นเลขคู่ศัตรูอ่อนๆ ยังพอทนไหว ต่างกับพรรคก้าวไกล ไม่รู้อีท่าไหน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค จับได้เบอร์ 31 ตามตำราว่า เป็นดาวคู่ศัตรู ข้อควรระวังเรื่องอุบัติเหตุ ...*...
ทั่นจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์พรรค 26 ส่วน “ทั่นหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เลขตัวเดียวจำง่ายเข้าไปใหญ่ เบอร์ 7 ในขณะที่ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เบอร์ 14 ...*...
“ลูกท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา คว้าได้เบอร์ 18 และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เบอร์สวยงาม 25 จำง่ายๆว่าหนึ่งสลึง สุดท้าย “คุณหญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคสร้างไทย หญิงเหล็กเมืองไทย ได้เบอร์ 32 ...*...
ก็สมแล้วที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้อง ป.ป.ช. 47 ส.ส. พรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรม เพราะ 47 ส.ส. จากสองพรรคดังว่า ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวหา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีคมนาคมว่า จัดงบประมาณเอื้อประโยชน์แก่พวกตัวเอง แต่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับฟ้อง ตีตกไป ...*...
ประสา บารอน ยอมรับใน คำวินิจฉัย ของ ศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไม่มีข้อกังขาใดๆแม้แต่น้อย งบประมาณกระทรวงคมนาคม กว่าจะมีการพิจารณาออกมาใช้ได้ ต้องผ่านการพิจารณาจากกรรมาธิการงบประมาณ สุดท้าย ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ จะไปกล่าวหารัฐมนตรีคมนาคมได้อย่างไร ...*...
รัฐมนตรีคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นผู้ใช้งบประมาณ ที่ผ่านการพิจารณาจากสภาฯแล้ว หากการประมูลไม่ชอบ หรือ มีการฮั้ว จะฟ้องร้อง ช่องที่ออก คือ ต้องไปร้องต่อ ป.ป.ช. ครับ
ที่มา:บารอน (5/4/66)