เดือด บุกเข้ามานั่งทำงาน ศาลปกครองไม่คุ้มครองชั่วคราว สุรพงษ์ฯอดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อ้างยังมีพระบรมมราชโองการแต่งตั้งอยู่

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากการมติประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ถอดถอนนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร นายกสภามหาวิทยาลัย(ขณะนั้น) ออกจากตำแหน่งด้วยเสียงสองในสาม (คะแนนเสียงมติเห็นชอบ 21 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง) ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ.2548 ต่อมานายสุรพงษ์ โสธนะเถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัย ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่  229/2565 ระหว่างนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร ผู้ฟ้องคดีกับนายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ที่ 1 สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครที่ 2 พล.ท.ชัยณงค์ กิจรุ่งโรจน์เจริญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ที่ 3 และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ที่ 4 และได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ของศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยการพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 นั้น 

จากการตรวจสอบจากศาลปกครองกลางล่าสุด พบว่า เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยมีคำสั่งยกคำขอและไม่คุ้มครองนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัย ซึ่งผลทางกฎหมายของศาลยกคำร้องดังกล่าว ทำให้นายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัย ไม่อาจกลับมาปฎิบัติหน้าที่ได้ในระหว่างพิจารณาคดีของศาลปกครองจนกว่าคดีจะถึงที่สุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังถอดถอนนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลได้ดำเนินการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยคนใหม่ ปรากฏว่า ได้เสนอรายชื่อและดำเนินกระบวนการสรรหาคนใหม่ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 กรรมการสภามหาวิทยาลัย มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 21 เสียง เกินกึ่งหนึ่งจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยเท่าที่มีอยู่เลือก “พล.ท.ชัยณรงค์ กิจรุ่งโรจน์เจริญ”เป็น นายกสภามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครคนใหม่ ซึ่งจะเสนอทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งต่อไป
 
แหล่งข่าวรายงานว่า ภายหลังถอดถอน นายสุรพงษ์ โสธนะเถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยได้แก้เกม โดยตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยอ้างว่า ยังมีพระบรมราชโองการให้เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยอยู่และได้บุกเข้าไปในห้องทำงานและตัดกุญแจไปครั้งหนึ่งแล้ว  

ต่อมาวานนี้ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ10.30 น.นายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยกับพวก ถือวิสาสะได้เดินทางเข้ามาภายในห้องทำงานบริเวณ ชั้น 2 (ตึกเหลือง)มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร(เทเวศน์) เพื่อเข้าทำงาน โดยไม่มีคำสั่งศาลปกครองกลางคุ้มครอง อันเป็นบุกรุกสถานที่ราชการและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะกรณีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยไปแล้ว ย่อมไม่มีกฎหมายคุ้มครองและให้อำนาจในการเข้าทำหน้าที่ แม้จะยังไม่มีพระบรมราชโองการถอดถอนออกจากตำแหน่งก็ตาม ซึ่งต้องรอกระทรวง อว.เสนอทูลเกล้าฯถอดถอน ซึ่งเป็นกระบวนการภายในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเท่านั้น. 

ดังนั้น ตราบใดที่ศาลปกครองยังไม่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือพิพากษากลับคำสั่งทางปกครองของกรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คำสั่งทางปกครองของกรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลที่ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลยังมีผลบังคับอยู่ตามพระราชบัญญัติวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539  การแอบเข้ามานั่งทำงานในห้องทำงานดังกล่าว ไม่สามารถทำลายล้างคำสั่งทางปกครองได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สร้างความฮือฮาและความสนใจในหมู่พนักงานมหาวิทยาลัย ต่างมุงดูพฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวและจับตาดูว่า นายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จะดำเนินทางกฎหมายอย่างไร 
 
ยิ่งไปกว่านั้น กระแสลือสะพัดทั้งวันว่า นายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จะนัดประชุมวาระพิเศษในวันนี้ แต่ปรากฏว่า กลับใช้แผนได้ออกคำสั่งปิดที่ทำการอธิการบดี ตึกอธิการบดีและนำคำสั่งไปปิดหน้าห้องห้ามขนย้ายทรัพย์สิน และเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นพยานในการปิดคำสั่ง เมื่อพิจารณาในเอกสาร เลขที่ อว 0652.31/พิเศษ ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ลงชื่อ ศาสตราจารย์ ดร.สุรพงษ์ โสธนะเสถียร นายกสภามหาวิทยาลัย โดยในคำสั่งอ้างว่า  นายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี กระทำวินัยร้ายแรงและผลสอบวินัยมีมติไล่ออกจากราชการแล้ว 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายชื่อกรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร พบรายชื่อกรรมการสภามหาวิทยาลัยที่น่าสนใจ คือ ร.ต.ท.ดร.คงกริษ. เล็กศรีนาค อดีตนายตำรวจกองปราบคนดัง มือกฎหมาย คอนเนคชั่นสายการเมือง เข้ามานั่งเป็นกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ ในชุดดังกล่าวด้วย และนั่งเป็นประธานอนุกรรมการกำกับติดตามคดีความ โดยดึงบุคคลภายนอกมือกฎหมายชั้นเซียน ระดับพญาครุฑ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุดดังกล่าว


 
จากการตรวจสอบข้อมูลจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ พบว่า นายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำเลยที่ 1 กับคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย รวม 22 คน ในฐานปฎิบัติหรือละเว้นปฎิหน้าที่โดยมิชอบ สืบเนื่องจากมีมติถอดถอนตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมมงคล พ.ศ.2548 และพบว่า นายชญานนท์ กุลฑลบุตร อดีตเลขานุการสภามหาวิทยาลัยฯ ยื่นฟ้องนายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 5 คน สืบเนื่องจากการตั้งกรรมการสอบวินัย ทั้งสองคดีต้องติดตามว่า ศาลจะรับฟ้องไว้ไต่สวนหรือไม่ นอกจากนี้ ตรวจสอบที่ศาลอาญา พบว่านายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำเลย ในฐานความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ศาลประทับรับฟ้องเฉพาะในความผิดหมิ่นประมาท โดยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานและนัดสืบพยานโจทก์/จำเลย ต้องติดตามว่า ผลคดีทั้งหมดจะเป็นอย่างไร โดยให้จับตาว่า นายณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จะดำเนินการอย่างไรกับนายสุรพงษ์ โสธนะเสถียร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กรณีเข้าทำงานโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สังคมกำลังจับตามอง การเมืองในองค์กรร้อนแรงไม่ต่างจากถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง