ก.วัฒนธรรม(วธ.) เน้นย้ำเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมทั่วประเทศทำงานต้องโปร่งใส หากพบทุจริตลงโทษขั้นเด็ดขาด

จากที่ปรากฏเป็นข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. เข้าปฏิบัติการจับกุมวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(สวจ.) หลังมีผู้ร้องเรียนทุจริตเงิน จำนวน 80,000 บาท โครงการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 นั้น

นายประสพ เรียงเงิน หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดวธ. และตนได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างรอการรายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก จ. พระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ปลัดวธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้กองกฎหมายติดตามตรวจสอบข้อมูล และดำเนินการตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

หน.ผู้ตรวจราชการวธ. กล่าวอีกว่า หากพบว่ามีการทุจริตจริง จะถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 85 ของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งมาตรา 88 ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัย จะต้องได้รับโทษทางวินัยสูงสุด คือ การไล่ออก และจะดำเนินการทางวินัยตามหน้าที่และอำนาจ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 136 ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ ปลัดวธ.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งเวียนทุกสวจ. ทั่วประเทศ กำชับเน้นย้ำให้ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริต คอร์รัปชั่น หากพบกระทำผิดจะดำเนินการโดยเคร่งครัดทั้งทางอาญาและทางวินัย

“ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนและเครือข่ายภาคประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง ตรวจสอบ หากใครพบเห็นการทุจริตให้ร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสให้ทราบผ่านช่องทางต่างๆ ของวธ. โดยจะเก็บข้อมูลผู้แจ้งไว้เป็นความลับ นอกจากนี้ได้ขอให้ผู้ตรวจฯ ที่รับผิดชอบพื้นที่เขตตรวจราชการต่างๆ ช่วยกำกับดูแล ตรวจสอบและติดตามการดำเนินงานดังกล่าวโดยใกล้ชิดด้วย” นายประสพ หน.ผู้ตรวจราชการวธ. กล่าว