นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึง แผนการตลาดปี 2566 ว่า ได้กำหนดให้สอดคล้องกับแผนวิสาหกิจองค์กร ททท. พ.ศ.2566 – 2570 โดยได้เตรียมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูในทุกมิ กระตุ้นความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ สร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการปรับ ต่อยอด และพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน สร้างระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวใหม่ รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมฯ

โดยตลาดระยะไกลเตรียมส่งเสริมการตลาดใน 2 แนวทาง ได้แก่ 1. การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมแสวงหาความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มสินค้า Lifestyle  2. เปิดตลาดเชิงพื้นที่ใหม่ ๆ เช่น ประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมขยายพื้นที่ไปเมืองรองในตลาดเดิม เน้นไปที่ตลาดสหรัฐฯ และจะขยายพื้นที่ส่งเสริมตลาดให้ครอบคลุมเมืองรองขนาดใหญ่ เช่น Portland (Oregon), Salt Lake City (Utah) ร่วมกับพันธมิตรสายการบิน Delta เปิดบริการบินในพื้นที่ตอนกลางของตลาดสหรัฐฯ

ขณะที่ ตลาดระยะใกล้ เตรียมส่งเสริมการตลาดตอกย้ำความเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมผลักดันโอกาสในการเดินทางเข้าถึงประเทศไทยทั้งการเดินทางทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สำหรับทางบกจะดึงนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงข้ามแผ่นดินจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย จีน ส่วนทางอากาศ จะผลักดันการเพิ่มจำนวนที่นั่งบนเครื่องบินจากตลาดระยะใกล้ให้กลับมามากกว่าร้อยละ 80 ของปี 2562

ด้านตลาดในประเทศ นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ทางททท.เตรียมกระตุ้นความต้องการเดินทางของคนไทย สอดรับกับแคมเปญสื่อสาร เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม ต่อยอดทิศทางส่งเสริมตลาด 5 ภาค เน้นพาเที่ยวเมืองไทยอย่างอบอุ่น เสนอแคมเปญ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย…เที่ยวได้ทุกวัน พร้อมชูความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ของแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือ  กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาค เจาะกลุ่มครอบครัวที่มีหลายช่วงวัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พาตะลอนเที่ยวสุด COOL กระตุ้นท่องเที่ยว 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวภายใต้ธีม 3 ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม เจาะกลุ่ม Gen-Y และวัยทำงาน นอกจากนี้ยังชวนค้นหาความหมายใหม่ของการเดินทางในเส้นทางเมืองรอง 5 ภูมิภาค กับแนวทางส่งเสริมการตลาด “เมนูเปิดประสบการณ์ใหม่ เมืองรองมิรู้ลืม

พร้อมกันนี้ ททท.ยังเตรียมยกระดับองค์กรสู่องค์กรสมรรถนะสูงมุ่งสู่การเป็น Data Driven Organization โดยใช้แพลตฟอร์ม Thailand Tourism Virtual Mart (https://virtualmart.tourismthailand.org) เป็นแพลตฟอร์มหลัก เพื่อเป็นพื้นที่การตลาดออนไลน์ในรูปแบบ B2B สำหรับการพบปะพูดคุยธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย (Seller) และบริษัทนำเที่ยวต่างชาติ (Buyer)

โดย นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ยังคงเดินหน้าประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยตลาดในประเทศด้วยแคมเปญ เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยมุมมองใหม่ เติมความหมายของการเดินทางท่องเที่ยว ชดเชยช่วงเวลาที่พลาดโอกาสได้เดินทางจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนตลาดต่างประเทศ ททท. ยังคงตอกย้ำแคมเปญ Visit Thailand Year 2022-2023 : Amazing New Chapters เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แสนพิเศษให้การเดินทางเที่ยวเมืองไทยมีความหมาย ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการกลับมาพบกันอีกครั้ง รวมทั้งเป็นการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปี 2566 ให้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 ซึ่งจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 1.73 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 970,000 ล้านบาท และรายได้หมุนเวียนจากตลาดคนไทย 760,000 ล้านบาท