"นายกฯ" พบแรงงานรับ 8 ข้อเสนอแก้ปัญหา ยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง พร้อมสางปมค้ามนุษย์ วอนจับมือพัฒนาฝีมือดึงนักลงทุนเข้าประเทศ อ้อนขอกำลังใจแรงงาน ลั่นเรื่องไหนง่าย-มีงบฯไม่เกี่ยง แย้มกำลังดูตัวเลขปรับขึ้นค่าแรง แต่ต้องดูเงินเฟ้อด้วย ที่ห้องประชุม จอมพล ป.พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ พ.ศ.2565 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ,นายบุญชอบ สุทธมนัสวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายสุชาติ กล่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2562 มี 17 ข้อเรียกร้องของผู้ใช้แรงงาน เราได้ทำไปแล้ว 10 ข้อเหลืออีก 7 ข้อเรียกร้องที่จะดำเนินการต่อไป โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม และพร้อมกับการแก้ปัญหา ช่วงสถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลได้เยียวยาผู้ประกันตน ที่ได้รับผลกระทบทุกมาตรา ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 รวม 20 ล้านคน และครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่นายกฯ มารับข้อเสนอจากผู้ใช้แรงงาน จากนั้น นายสุชาติ ไทยล้วน ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2565 ได้ยื่นข้อเรียกร้องวันแรงงาน 8 ข้อ ต่อนายกฯ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ 2.เร่งดำเนินการนำร่างพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ?. เข้ากระบวนการพิจารณาในสภา 3.ขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ที่ลูกจ้างได้รับก้อนสุดท้ายตามพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 4. ปรับปรุงพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 5.ปฏิรูปแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม 6.เร่งรัฐออกกฏหมายคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบ 7.จัดระบบกองทุนสวัสดิการเลี้ยงชีพลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจ 8.ตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องทั้งหมด จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสุนทรพจน์ว่า เป็นโอกาสที่เราได้พบกันอีกครั้ง นับจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งวันแรงงานเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะแสดงความขอบคุณและตระหนักถึงบทบาทของผู้ใช้แรงงานทุกคน ตนไม่เคยทอดทิ้งและเอาใจใส่อยู่เสมอ ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นโอกาสดีที่จะกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงสิทธิความเสมอภาค สวัสดิการ และความปลอดภัยในอาชีพ และได้รับความต้องการที่แท้จริง นำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความสุข มั่นคง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีความมุ่งมั่นจะผลักดันให้กระทรวงแรงงานพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเต็มรูปแบบ ในเวทีการค้าโลก ดังนั้นการพัฒนาแรงงานเพื่อให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีชีวิตที่ดีและความสุขอย่างยั่งยืน เป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องดำเนินการไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งเรามีอาชีพหลากหลาย เราต้องดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง ซึ่งกลุ่มแรงงานกลุ่มนี้เป็นกำลังหลักทำให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ถือเป็นอาชีพที่มีความสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วง และกังวลคือชีวิตความเป็นอยู่ และรายได้ของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีสถานการณ์โควิด-19 เราพยายามเดินหน้าสิ่งต่างๆมาโดยตลอด ทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงานและการดูแลต่างๆ แต่พอมีโควิด-19 เข้ามาก็มีปัญหา แต่ก็มีการดูแล เยียวยาทั้งกลุ่มแรงงานและเจ้าของสถานประกอบการ นั่นคือภาระหลักของเรา จะให้ใครแบกภาระไว้ข้างเดียวมันไม่ไหว และขณะนี้ก็เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งในโลกของเรา จึงเกิดผลกระทบในห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดของทั้งโลก เราก็เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่ของเขา เพราะเรามีโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยวัตถุดิบต่างๆจากหลากหลายประเทศ และเมื่อมีสถานการณ์ที่ที่พลิกพัน เราต้องเตรียมมาตรการอื่นไว้รองรับด้วย และอีกประกาศหนึ่งคือ วันนี้เราหน้าเป็นห่วงเรื่องขาดแคนแรงงานฝีมือ เนื่องจากเรากำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะเราแข็งแรงมีอายุยืนยาว รวมถึงคนที่มีครอบคัวก็มีบุตรน้อยลง คือสิ่งที่รัฐบาลต้องนำไปเป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องโรคอุบัติใหม่ เรามีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงทางสังคมการเมืองและสิ่งแวดล้อม ทำให้การดำเนินชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างไร โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ที่อาจจะไม่เหมือนกับต่างจังหวัดที่สามารถหาซื้อของกินของใช้ในพื้นที่ ซึ่งราคาไม่แพงมากนัก แต่เมื่อมาอยู่ในกรุงเทพฯ ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉะนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกลุ่มใช้แรงงาน จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเราก็ระมัดระวัง เพราะหากมันมากเกินไป จะมีผลกับงบประมาณการเงินการคลังของเรา "รัฐบาลไม่เคยทิ้งพวกเรา โดยเฉพาะผม มีการหารือกันเสมอว่าเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรประเทศของเราจะมีรายได้ในอนาคต ทำอย่างไรจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่มากขึ้น และทำอย่างไรคนไทยของเราที่เป็นแรงงานจะมีงานทำในลักษณะหัวหน้างาน เราจึงเร่งพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มศักยภาพของพวกเรา เพราะวันหน้าโลกอาจจะเปลี่ยนไปการใช้เครื่องจักรเครื่องมือและใช้หุ่นยนต์มากขึ้น ฉะนั้นเราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อสามารถทำงานกับเครื่องจักรได้ในอนาคต และสามารถเป็นหัวหน้างานคุมงานได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่มีการตั้งโรงงานในประเทศไทย มีกติกาว่าเขาจะต้องจ้างแรงงานไทย ในจำนวนพอสมควร ซึ่งวันนี้มีการลงทุนผ่าน BOI และ EEC จำนวนมาก ตนให้แนวทางไปว่าจะต้องทำอย่างไรให้เกิดธุรกิจใหม่ๆขึ้นมา ให้มีรายได้สูงขึ้น เพราะวันนี้สินค้าส่งออกเรายังเป็นนวัตกรรมเดิมๆ ตนได้เร่งรัดให้เดินหน้าไปสู่สังคมการใช้เทคโนโลยี ใช้นวัตกรรมในการผลิตและส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ วันนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้า แม้จะมีภาวะสงครามเกิดขึ้นก็ตาม ตนเชื่อในคำพูดว่าเราจะอยู่ด้วยความรัก ความสามัคคี ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะรัฐบาลไม่สามารถเดินคนเดียวได้และท่านก็เดินไปคนเดียวไม่ได้ ประเทศชาติเป็นสิ่งที่รักยิ่งของทุกคน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นแกนเป็นหลักสำคัญของประเทศนี้ บ้านนี้ เมืองนี้มาโดยตลอดเป็นศูนย์รวมความรักความสามัคคีของพวกเรา นายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้จัดงานและทุกกลุ่ม วันนี้ต้องหารือว่าจะทำอย่างไรให้ยกระดับแรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิตในภาคอุตสาหกรรม จึงต้องพัฒนาตัวเองหากต้องการรายได้เพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนจากต่างประเทศที่มาลงทุนต้องการแรงงานที่มีฝีมือ และยังต้องเตรียมพร้อมที่จะมีการย้ายฐานผลิต หากมีความวุ่นวายอื่นขึ้นมาจะทำให้เขาย้ายฐานทันที ดังนั้นเราต้องมีความรัก ความสามัคคี พัฒนาตัวเองและพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลแก้ปัญหา เพื่อหารายได้เข้าประเทศให้มากกว่าเดิม และส่งเสริมการลงทุนที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนรับข้อเสนอทั้ง 8 ข้อ เพื่อนำไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรม และยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งยกระดับป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อปลดล็อกสถานการณ์การค้ามนุษย์ระดับเทียร์ 2 ที่ถูกจับตามอง ขณะที่แรงงานต่างด้าวต้องดูแลให้เป็นระบบ เพราะต้องใช้ทั้งแรงงานไทยและต่างด้าวพัฒนาระบบทั้งประเทศ ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาขาดแรงงานและเร่งคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน เช่น ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคมให้สอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนมีกฎหมายดูแลอยู่ หลายเรื่องอยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา หลายเรื่องอยู่ในการพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อส่งสภาฯ ออกเป็นกฎหมายต่อไป และทุกครั้งในที่ประชุมครม.จะพูดถึงประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย และให้ความสำคัญกับทุกกระทรวง ในการสนับสนุนงบประมาณที่มีอย่างจำกัด ทั้งนี้ที่ผ่านมา 2 ปีมีปัญหาทั้งโควิด-19 และสถานการณ์สงคราม รัฐบาลยินดีทุกอย่างถ้าสามารถทำอะไรให้กับแรงงานและจะร่วมมือกันทำงานให้ดีที่สุด "ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้ง และไม่เคยคิดอย่างนั้น การเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี คือการป็นตัวแทนประชาชนเข้ามาทำงานแก้ปัญหา อะไรทำได้จะทำเต็มที่" นายกฯ กล่าว ภายหลังเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากในประเทศของเราเอง แต่มาจากปัจจัยภายนอกที่เราต้องแก้ไปทีละขั้นตอน ถ้าแก้อันหนึ่งผิดก็จะพังไปทุกๆ อย่าง ตนทราบความต้องการของผู้ใช้แรงงานแต่ต้องมาหารือร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้เข้าประเทศ สิ่งไหนทำได้รัฐบาลจะทำให้ แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน นายกฯ กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่มีโควิด-19 รัฐบาลใช้งบประมาณดูแลเฉพาะเรื่องนี้ไปถึง 1 ล้านล้านบาท ทั้งการฟื้นฟูและเยียวยา ก็เสียดาย แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เราต้องดูแลเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาล ช้าบ้าง เร็วบ้าง ดูแลเต็มที่ เรื่องที่บกพร่องได้สั่งย้ำให้เร่งแก้อยู่ตลอด วันนี้ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้หารายได้มาทดแทนเงินก้อนใหญ่ที่ใช้ไป พอโควิด -19 เริ่มดีการท่องเที่ยวจะเข้ามา ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้น "ขอย้ำว่าเราต้องพูดคุยและอยู่กันอย่างสันติวิธี ถ้าเรื่องไหนง่าย มีงบ และไม่กระทบกับเรื่องอื่น นายกฯไม่เคยปฏิเสธ เราจะไม่สร้างเสียหายให้กับใคร รวมถึงรัฐบาลหน้า ก็ไม่อยากเอาปัญหาไปให้เขา วันนี้จะทำให้เต็มที่ จะได้แค่ไหนอยู่ที่ร่วมมือกัน ตนต้องการแค่กำลังใจเท่านั้นเพื่อสู้กับปัญหาต่างๆ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เมื่อถามถึงข้อเสนอเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังหารือกันอยู่ว่าถ้าจะขึ้น จะขึ้นได้เท่าไหร่ ต้องดูเรื่องอัตราเงินเฟ้อด้วย และถ้าจะไม่ขึ้นเป็นเพราะอะไร สิ่งสำคัญวันนี้คือการย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น เพราะนักลงทุนจะดูว่าจะไปประเทศไหน และอาจจะมองว่าที่อื่นลงทุนได้ง่ายกว่า สะดวกกว่าหรือไม่ ถูกกว่าหรือไม่ เขาก็ไปหมด ข้อเสนอเรื่องนี้เป็นของคนที่เดินอยู่ข้างนอก แต่เราต้องเอามาดู มีอะไรก็มาคุย ด้าน นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกพรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา 'อีโต้อีสาน' อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย กล่าวเรียกร้องให้ พล.อ.ระยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ออกมาขอโทษประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องแรงงานที่ไม่สามารถทำตามนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐที่ไปโม้กับชาวบ้านเอาไว้ว่าจะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท , ปริญญาตรีเงินเดือน 2 หมื่น และอาชีวะ 1.8 หมื่น ซึ่งอยู่ในอำนาจมา 3 ปีแล้ว ก็ยังทำไม่ได้ ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุค เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พ.ค. ระบุว่า "วันนี้เป็นวันแรงงานสากลดิฉันขอยกย่องหัวใจผู้ใช้แรงงานทุกท่านค่ะ เพราะเรารู้ว่าท่านจะต้องตรากตรำทำงานหนักเพียงไรเพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว และกลับบ้านต้องมาดูแลครอบครัว แถมช่วงสถานการณ์โควิดที่มีการล็อกดาวน์ พี่น้องผู้ใช้แรงงานก็ไม่สามารถหยุดงานได้ ต้องฟันฝ่าเดินทางเสี่ยงกับการติดเชื้อเพียงเพื่อไม่ต้องการให้รายได้ขาดหาย ดังนั้นดิฉันจึงขอให้ทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยส่งเสริม พัฒนาฝีมือทักษะในการรองรับเทรนด์ที่เกิดขึ้นในอนาคต และดูแลผู้ใช้แรงงานอย่าปล่อยให้พวกเขาโดดเดี่ยวเลยค่ะ"