“หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้” มิสแกรนด์อ่างทองลูกครึ่งอิหร่าน แสดงเห็นกรณี "ปริญญ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บนเทวีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ชี้ข่มขืนเท่ากับประหาร ก่อนได้รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ขวัญใจขอนแก่น และได้ครอบครองมงกุฎ “𝐓𝐡𝐞 𝐈𝐜𝐨𝐧𝐢𝐜 𝐨𝐟 𝐊𝐡𝐨𝐧 𝐊𝐚𝐞𝐧”
จากกรณี “หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้” มิสแกรนด์อ่างทอง ตอบคำถามแสดงความคิดเห็นต่อกรณีมีนักการเมืองรายหนึ่งได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กและเยาวชน ซึ่งมีหลักฐานว่ามีการล่วงละเมิด พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ถูกกระทำ จนได้ตำแหน่งมิสแกรนด์ขวัญใจขอนแก่น ได้ครอบครองมงกุฎ The Iconic of Khon Kaen พร้อมสายสะพายประจำตำแหน่งไปครอง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 เมษายน 2565 ที่โรงแรมอวานีขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ น.ส.อรปรียา เนซ่า มามูดี้ หรือหนูดี ผู้ได้ตำแหน่งมิสแกรนด์ขวัญใจขอนแก่น และได้ครอบครองมงกุฎ "The Iconic of Khon Kaen" พร้อมสายสะพายประจำตำแหน่ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาระหว่างการเก็บตัวทำกิจกรรมที่ จ.ขอนแก่นได้ติดตามประเด็นนักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศมาโดยตลอด โดยส่วนมองว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นนักการเมือง เป็นคนของประชาชน แต่กลับทำผิดเอง อีกทั้งต้องการเป็นกระบอกเสียงในเรื่องสิทธิ พอดีกับมีคำถามในประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจบนเวทีการประกวด ก็ได้ตอบคำถามว่า ความรุนแรงทางเพศไม่สมควรเกิดขึ้น ไม่ว่ากับใคร เพราะการกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการไปล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งผู้หญิงและเด็ก เป็นการกระทำที่ต่ำตม ไม่มีมนุษยธรรมมมาก
"หลังจากพูดไปบนเวที เสียงของหนูดังขึ้น หลังจากนี้ยังคงจะพูดถึงเรื่องการปกป้องสิทธิต่อไปเรื่อยๆ โดยจะรณรงค์ ติดตาม พร้อมทั้งโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะ เราต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศถือว่าเกิดขึ้นบ่อยในไทย ไม่ใช่แต่จะเป็นกับนักการเมืองเท่านั้น รวมทั้งคนทั่วไปด้วย กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับพบว่า กฎหมายบ้านเราไม่เคร่งครัดมากพอที่จะมาจัดการกับเรื่องนี้ได้ กฎหมายต้องคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่เมื่อผู้กระทำผิดมีอำนาจ มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องก็เงียบหาย คนที่ถูกกระทำไม่สามารถทำอะไรได้ เราต้องแก้ปัญหาตั้งแต่รากของกฎหมาย จิตใจคน ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่แย่มาก และการข่มขืนเท่ากับประหารเท่านั้น"
น.ส.อรปรียา กล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัว สนใจเรื่องสิทธิมานาน เพราะเชื่อว่าคนไทยต้องมีสิทธิพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน การออกมาพูดไม่ใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิ แต่เป็นการทวงคืนสิทธิที่เราควรมี ซึ่งในอนาคตจะได้รับตำแหน่ง หรือไม่ได้รับตำแหน่ง ก็ยังคงจะติดตามและพูดเรื่องสิทธิของคนไทย เพราะเป็นสิ่งที่ควรพูดและเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงที่สุด เพราะเราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 เมษายน 2565 ที่โรงแรมอวานีขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ น.ส.อรปรียา เนซ่า มามูดี้ หรือหนูดี ผู้ได้ตำแหน่งมิสแกรนด์ขวัญใจขอนแก่น และได้ครอบครองมงกุฎ "The Iconic of Khon Kaen" พร้อมสายสะพายประจำตำแหน่ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาระหว่างการเก็บตัวทำกิจกรรมที่ จ.ขอนแก่นได้ติดตามประเด็นนักการเมืองล่วงละเมิดทางเพศมาโดยตลอด โดยส่วนมองว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่เป็นนักการเมือง เป็นคนของประชาชน แต่กลับทำผิดเอง อีกทั้งต้องการเป็นกระบอกเสียงในเรื่องสิทธิ พอดีกับมีคำถามในประเด็นที่กำลังอยู่ในความสนใจบนเวทีการประกวด ก็ได้ตอบคำถามว่า ความรุนแรงทางเพศไม่สมควรเกิดขึ้น ไม่ว่ากับใคร เพราะการกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการไปล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งผู้หญิงและเด็ก เป็นการกระทำที่ต่ำตม ไม่มีมนุษยธรรมมมาก
"หลังจากพูดไปบนเวที เสียงของหนูดังขึ้น หลังจากนี้ยังคงจะพูดถึงเรื่องการปกป้องสิทธิต่อไปเรื่อยๆ โดยจะรณรงค์ ติดตาม พร้อมทั้งโพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะ เราต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง เนื่องจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศถือว่าเกิดขึ้นบ่อยในไทย ไม่ใช่แต่จะเป็นกับนักการเมืองเท่านั้น รวมทั้งคนทั่วไปด้วย กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับพบว่า กฎหมายบ้านเราไม่เคร่งครัดมากพอที่จะมาจัดการกับเรื่องนี้ได้ กฎหมายต้องคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่เมื่อผู้กระทำผิดมีอำนาจ มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องก็เงียบหาย คนที่ถูกกระทำไม่สามารถทำอะไรได้ เราต้องแก้ปัญหาตั้งแต่รากของกฎหมาย จิตใจคน ว่าทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่แย่มาก และการข่มขืนเท่ากับประหารเท่านั้น"
น.ส.อรปรียา กล่าวต่ออีกว่า โดยส่วนตัว สนใจเรื่องสิทธิมานาน เพราะเชื่อว่าคนไทยต้องมีสิทธิพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน การออกมาพูดไม่ใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิ แต่เป็นการทวงคืนสิทธิที่เราควรมี ซึ่งในอนาคตจะได้รับตำแหน่ง หรือไม่ได้รับตำแหน่ง ก็ยังคงจะติดตามและพูดเรื่องสิทธิของคนไทย เพราะเป็นสิ่งที่ควรพูดและเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงที่สุด เพราะเราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน