วันที่ 12 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมีฝนตกสลับแดดร้อนจัด ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน65ที่ผ่านมา ส่งผลให้ควายน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุงลอยน้ำตายเกลื่อน จุดดังกล่าวอยู่บริเวณสะพานยกระดับเฉลิมพระเกียรติ รอยต่อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กับ อ.ระโนด จ.สงขลา เป็นอีกจุดเช็คอินลำดับต้นๆของจังหวัดพัทลุง ล่าสุด สภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้ควายของชาวบ้านที่เลี้ยงบริเวณทุ่งหญ้าคลองนางเรียม กว่า 2,700 ตัว ได้ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก สาเหตุมาจากคาดว่าควายเหล่านี้ไม่มีหญ้ากิน เนื่องจากบนทุ่งหญ้าถูกน้ำท่วมขังนาน กว่า 6 เดือน เพราะจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่ม รองรับน้ำ ทำให้มีสภาพน้ำท่วมยาวนานกว่าที่อื่นๆในจังหวัดพัทลุง ขณะที่เจ้าของควายระบุว่าปกติน้ำในทะเลน้อย จะท่วมอยู่ 2-3 เดือน แล้วก็ลดลง ทำให้ควายที่พวกเขาเลี้ยงสามารถปรับตัวเองได้โดยการพาลูกดำน้ำกินหญ้า พร้อมทั้งเจ้าของความได้นำหญ้าแห้งมากักตุนไว้เพื่อให้ควายได้กินให้รอดพ้นช่วงน้ำหลากในรอบ3 เดือน ของ 1 ปี แต่ปีนี้น้ำท่วมขังนาน อาหารหญ้าแห้งที่เตรียมไว้มีไม่เพียงพอ คลายที่หากินบนทุ่งหญ้าผอมโซ และล้าจากการดำน้ำกินหญ้า น๊อค จนล้มตายลงในขณะนี้และกำลังทยอยตายลงเรื่อยๆ กว่า 200 ตัว ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ด้าน นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หลังรับทราบข่าว ได้ลงพื้นที่บริเวณทุ่งหญ้าคลองนางเรียม บนสะพานเฉลิมพระเกียรติ รอยต่ออ.ควนขนุน จ.พัทลุง - อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อมด้วยนายอำเภอควนขนุน ปศุสัตว์อำเภอควนขนุน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุว่า ในเบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าของควายในจุดดังกล่าว สาเหตุการตายของควายน่าจะเกิดจากการอดอาหาร เนื่องจากน้ำท่วมทุ่งหญ้าเลี้ยงควายนานเกินไป จนได้รับผลกระทบและทยอยตายลงจำนวนมาก พร้อมทั้งให้ปศุสัตว์จังหวัดเร่งเดินทางมาช่วยเหลือควายที่เหลือและป่วยที่อาการผอมโซ เร่งเสริมเคลเซี่ยม อาหารเสริม และหญ้าแห้ง เพื่อที่จะรักษาควายที่เหลือให้ปลอดภัย พร้อมทั้งดูแลควายที่ป่วยอาการร่อแร่อีกกว่า 300 ตัว ขณะเดียวกัน ให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เร่งเก็บตัวอย่างควายที่ตายว่าสาเหตุการตายเกิดจากอดอาหารหรือจากโรคระบาด พร้อมทั้งให้เร่งเก็บทำลายซากควายที่ลอยน้ำทำลายอย่างถูกสุขลักษณะต่อไป.