แอร์เอเชียพลิกโฉมธุรกิจ ดัน airasia Super App เป็นสุดยอดแอปพลิเคชั่นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคน ไม่จำกัดเเค่การให้บริการสายการบิน แต่ครอบคลุมไปถึงบริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจร การจองที่พักโรงเเรมและตั๋วเครื่องบินสายการบินอื่น รวมทั้งบริการใหม่ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น airasia Food บริการส่งอาหารเดลิเวอรี่ airasia Xpress บริการขนส่งพัสดุ โดยตั้งเป้าเปิดตัว airasia Ride บริการรถรับส่งในไทย เร็วๆ นี้ นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มแคปปิตอล เอ (Capital A) บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนที่ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแอร์เอเชีย กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อข้อจำกัดการเดินทาง จึงทำให้การเดินทางมาครั้งนี้เป็นความตั้งใจในการมาเปิดตัว airasia Super App สุดยอดเเอปพลิเคชั่นไลฟ์สไตล์ในไทย เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นตลาดท่องเที่ยวเเละไลฟ์สไตล์ของอาเซียนที่ใหญ่เเละมีศักยภาพพร้อมเติบโตที่สุด ซึ่งด้วยประสบการณ์ตลอด 20 ปีในฐานะผู้นำสายการบินราคาประหยัด โดยมีฐานลูกค้าที่ใหญ่และเป็นผู้นำในอาเซียน ได้นำมาต่อยอดกับเทคโนโลยีเเละนวัตกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นซูเปอร์แอป ที่จะเข้าถึงการใช้ชีวิตประจำวัน และเทรนด์ไลฟ์สไตล์ในอนาคต ด้วยสินค้าผลิตภัณฑ์เเละบริการที่หลากหลายสำหรับทุกคน โดยคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีสัดส่วนรายได้ที่ไม่ได้มาจากสายการบิน เพิ่มมาอยู่ที่ 50% จากรายได้รวมของกลุ่ม สำหรับ airasia Super App ได้รับการยอมรับว่าเป็นยูนิคอร์นแห่งเทคโนโลยีภายในเวลาไม่ถึงสองปี โดยปรับโฉมนำเสนอสินค้าบริการที่ครอบคลุมกว่า 16 รายการ ไม่เฉพาะเที่ยวบินและการเดินทางที่คุ้มค่าเท่านั้น แต่เป็นตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ชั้นนำของอาเซียน รวมถึงความต้องการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่อาหาร การค้าปลีก อีคอมเมิร์ซ ไปจนถึงบริการขนส่งในวันเดียวกัน บริการเรียกรถ และอื่นๆ พร้อมอยู่ในเส้นทางก้าวเป็นแอปไลฟ์สไตล์ชั้นนำในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบัน airasia Super App มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 50 ล้านคนต่อเดือน และคาดว่าจะมีผู้ใช้งานมากกว่า 104 ล้านคนต่อเดือน ภายในปี 2569 ด้าน นายวรุฒ วุฒิพงศาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ airasia Super App ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ มีโอกาสและการเติบโตสูง ไม่เฉพาะจุดเเข็งด้านการท่องเที่ยวชั้นนำในภูมิภาค แต่รวมไปถึงธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ซึ่ง airasia Super App ได้ปรับกลยุทธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เชื่อว่าสินค้าเเละบริการใหม่ๆ จะสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทยได้อย่างดี ทั้งนี้ airasia Super App ยังวางกลยุทธ์ให้กลุ่มท่องเที่ยว (Travel) เป็นธุรกิจสำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วย การเป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจร (Online Travel Agent) ทั้งการให้สำรองที่นั่งตั๋วเครื่องบินทั้งกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินชั้นนำอื่นๆ กว่า 700 สายการบิน บริการจองห้องพักเเละโรงเเรม รวมทั้ง SNAP บริการจองตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก ซึ่งตอบโจทย์การเดินทางและกำลังเติบโตอย่างดีในประเทศไทย นอกจากนี้ airasia Super App ยังเจาะเทรนด์ผู้บริโภคในธุรกิจที่เป็นไลฟ์สไตล์ ทำให้ทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกับแอปนี้ได้ในทุกวัน สำหรับประเทศไทย ถือเป็นครั้งเเรกที่ได้เปิดตัว airasia Food บริการส่งอาหารเดลิเวอรี่ ตั้งเเต่เดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีโปรโมชั่นราคาสุดคุ้มต่อเนื่อง พร้อมให้บริการครอบคลุมทั่วกรุงเทพ เเละมีเเผนขยายสู่พื้นที่จังหวัดอื่นๆ ในไตรมาส 1 ของปี 2565 ในขณะที่ airasia Xpress บริการขนส่งพัสดุ ได้เปิดตัวไปในเดือนธันวาคม 2564 ด้วยแนวคิดส่งเร็ว ส่งไว ในราคาที่ดีที่สุด และมีเเผนในการเพิ่มบริการใหม่ๆ อีก 1-2 บริการภายในปีนี้ ทั้งนี้ airasia Super App ในประเทศไทย มีเป้าหมายที่สำคัญ คือ 1.ก้าวสู่การเป็นสุดยอดแอปอาเซียน มีผู้ใช้งานมากกว่า 104 ล้านต่อเดือน ในปี 2569 และมีบริการหลากหลายครอบคลุมธุรกิจท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ช และฟินเทค ควบคู่การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้แอปใช้ง่าย เข้าถึงได้สำหรับทุกคน 2.บริการด้านการท่องเที่ยว (Travel) ขยายพันธมิตรสายการบินภายในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดจองเที่ยวบินเติบโต 20 เท่า และขยายจำนวนพันธมิตรโรงเเรม ลุยตลาดเเพคเกจเที่ยวบินพร้อมที่พักราคาพิเศษ เติบโต 40 เท่า ภายในปี 2569 สำหรับ airasia Food ขยายพื้นที่บริการทั่วเขตปริมณฑล และทุกภูมิภาคทั่วประเทศภายในปี 2565 มุ่งเน้นการคัดสรรร้านที่มีคุณภาพและส่งเสริมให้ร้านค้ารายย่อยที่มีคุณภาพได้มีช่องทางในการขาย โดยเสียค่าบริการแพลตฟอร์มน้อยที่สุด ส่วน airasia Xpress ตั้งเป้าให้บริการขนส่งแบบ door to door ภายในจังหวัด ในปี 2565 และขนส่งแบบข้ามจังหวัดในอนาคต โดยมุ่งหวังส่งเสริมการบริการการขนส่งด่วน ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและคุ้มค่าที่สุด โดย airasia Super App ในประเทศไทย มีแผนเพิ่มบริการใหม่ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ อีคอมเมิร์ช และฟินเทค อย่างน้อยปีละ 1-2 บริการ