วันที่ 14 ม.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ตรวจสอบพบกลุ่มพรานล่าสัตว์ และพบซากเสือโคร่งจำนวน 2 ตัว ถูกแล่เนื้อ และถลกหนังออกคาดว่าอาจจะนำไปจำหน่าย ซึ่งผู้กระทำความผิดได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯ จึงยึดซากเสือโคร่งไว้เป็นของกลาง นั้น
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์ที่หดหู่ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเสือโคร่งจัดเป็นสัตว์ป่าที่กำลังใกล้จะสูญพันธ์ุ และได้รับการขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงฉบับที่ 13 (พ.ศ.2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 จึงอยากขอเตือนไปยังผู้กระทำความผิด ล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง จะมีความผิดตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ระบุ ว่า มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือ ผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 มาตรา 22 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าสงวน หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000บาท ถึง 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือพบการกระทำความผิด ขอให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง