เกิดเหตุระทึกหนุ่มวัย 27 ชาว อ.นางรอง  จ.บุรีรัมย์ ที่เพิ่งปีนเสาโทรศัพท์สูง 80 เมตรหวังฆ่าตัวตายเมื่อ 2 วันก่อน  เพราะน้อยใจภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกไม่ค่อยมีเวลาดูแล  ได้ปีนระเบียงตึกศัลยกรรมชั้น 4 รพ.นางรอง  ขณะยังสวมชุดไข้หวังฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่ 2  จนท.ต้องรีบประสานภรรยามาช่วยเกลี้ยกล่อม  ตร. กู้ภัยฯ  ต้องระดมเบาะหนังวางเลียงด้านล่างรองรับเหตุฉุกเฉิน 
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. (24 พ.ย.64)  เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรนางรอง  จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ป่วยพยายามจะกระโดดตึกภายใน รพ. นางรอง  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ  พร้อมหน่วยกู้ภัยฯ ก็ได้รีบเดินทางไปยัง รพ.  เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่พยายามจะคิดสั้น  ตามที่ได้รับแจ้งอย่างเร่งด่วน 
เมื่อไปถึงก็พบผู้ป่วยชายซึ่งยังสวมชุดคนไข้ นั่งอยู่บนระเบียงชั้น 4 ของตึกศัลยกรรมชาย  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พร้อมหน่วยกู้ภัยฯ  และเจ้าหน้าที่ รพ.จึงได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือ  โดยเบื้องต้นได้ช่วยกันหาเบาะยางไปวางบริเวณพื้นด่านล่าง   ตรงกับระเบียงที่ผู้ป่วยคนดังกล่าวนั่งอยู่ เพื่อรองรับแรงกระแทกหากเกิดพลัดตกลงมา    ส่วนกู้ภัยฯ อีกทีมก็เตรียมอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ เพื่อจะเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยรายดังกล่าว   และอีกทีมก็พยายามพูดเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ผู้ป่วยรายดังกล่าวใจเย็นลง  แต่ก็ไม่ได้ผล จนท.จึงได้ประสานภรรยาของผู้ป่วยรายดังกล่าวมาช่วยเกลี้ยกล่อม  
เพราะจากการตรวจสอบทราบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว  คือ นายปอนด์ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี   เพิ่งจะก่อเหตุปีนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือสูง 80 เมตร  ตั้งอยู่กลางทุ่งนาใกล้กับวัดจอมปราสาท    ต.สะเดา  อ.นางรอง  เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา  เนื่องจากน้อยใจภรรยาที่เพิ่งจะคลอดลูกได้เพียง 5 เดือน ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเอาใจเพราะต้องเลี้ยงลูกอ่อนและทำงานด้วย   กระทั่งภรรยา  ได้พาลูกชายคนโตวัย 8 ขวบไปเกลี้ยกล่อมจนนายปอนด์ ยอมใจอ่อนลงมาจากเสาโทรศัพท์อย่างปลอดภัย   จากเหตุการณ์ครั้งก่อน จนท.ก็จำเป็นจะต้องนำตัวนายปอนด์  มาตรวจรักษาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจที่ รพ.   แต่นายปอนด์  กลับพยายามจะฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่สอง   ด้วยการปีนระเบียงชั้น 4 ของ รพ.   ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ก็สร้างความแตกตื่นตกใจกับหมอ  พยาบาล และคนไข้     
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ภรรยา มาช่วยเกลี้ยกล่อม  ซึ่งทันทีที่ภรรยา มาถึงก็ร้องไห้ด้วยความตกใจไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุเหมือนเดิมอีก   โดยทันทีที่ภรรยามาถึงและพูดเกลี้ยกล่อมนายปอนด์ ก็เริ่มใจเย็นลง  และเดินจากระเบียงไปหาภรรยาแต่พอ จนท.พยายามจะอาศัยจังหวะที่นายปอนด์เข้ามาหาภรรยา  คว้าตัวเอาไว้   แต่นายปอนด์กลับดันตัวเองออกแล้วไปยืนใกล้กับขอบระเบียงอีกครั้ง    ซึ่งภรรยา ก็ทั้งร้องไห้และเกลี้ยกล่อมสามีบอกให้กลับไปอยู่ด้วยกัน     ผ่านไปสักพักสามีจึงมีท่าทีใจอ่อนลงและยอมกลับเข้ามาจากระเบียงและยอมให้ จนท.พาไปที่เตียงคนไข้เหมือนเดิม   โดยตั้งแต่ที่นายปอนด์ ปีนออกไปบนระเบียงจนภรรยา มาเกลี้ยกล่อมก็ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง  จึงยอมกลับเข้ามา   ก็สร้างความดีใจและโล่งอกทั้งญาติและเจ้าหน้าที่ด้วย   
หลังจากที่นายปอนด์  กลับจากระเบียงแล้ว  จนท.ก็ได้พาตัวไปยังเตียงผู้ป่วย เพื่อตรวจรักษาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ    ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คาดว่านายปอนด์มีภาวะหวาดระแวง สุ่มเสี่ยงที่จะคิดสั้น   ซึ่งแพทย์ก็จะประเมินอาการอีกครั้ง  หากเข้าข่ายภาวะจิตใจไม่ปกติก็อาจจะต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ จ.นครราชสีมา
สอบถาม  ป้าของนายปอนด์  เล่าว่า    ช่วงประมาณ 3 ทุ่มกว่า ได้มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลโทรไปแจ้งว่า  นายปอนด์  หลานชายจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย  ก็ตกใจและรีบไปบอกหลานสะใภ้และเดินทางไป รพ.ทันที   พอไปถึงก็เห็นหลานออกไปนั่งอยู่ตรงระเบียงก็แทบช็อก  จากนั้นก็ให้หลานสะใภ้พูดเกลี้ยกล่อมให้หลานชายใจเย็น   ซึ่งหลานสะใภ้ก็กล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงหลานชายจึงยอมใจอ่อน   ก็คาดว่าสาเหตุที่หลานชายพยายามจะก่อเหตุฆ่าตัวตายนั้น  น่าจะน้อยใจภรรยาเหมือนเดิม  และมีอาการหวาดระแวง   ภรรยา ต้องอยู่ใกล้ตัวเองตลอดเวลา   แต่ช่วงสถานการณ์โควิดก็ไม่สามารถจะทำได้ 
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ภรรยา มาช่วยเกลี้ยกล่อม  ซึ่งทันทีที่ภรรยา มาถึงก็ร้องไห้ด้วยความตกใจไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุเหมือนเดิมอีก   โดยทันทีที่ภรรยามาถึงและพูดเกลี้ยกล่อมนายปอนด์ ก็เริ่มใจเย็นลง  และเดินจากระเบียงไปหาภรรยาแต่พอ จนท.พยายามจะอาศัยจังหวะที่นายปอนด์เข้ามาหาภรรยา  คว้าตัวเอาไว้   แต่นายปอนด์กลับดันตัวเองออกแล้วไปยืนใกล้กับขอบระเบียงอีกครั้ง    ซึ่งภรรยา ก็ทั้งร้องไห้และเกลี้ยกล่อมสามีบอกให้กลับไปอยู่ด้วยกัน     ผ่านไปสักพักสามีจึงมีท่าทีใจอ่อนลงและยอมกลับเข้ามาจากระเบียงและยอมให้ จนท.พาไปที่เตียงคนไข้เหมือนเดิม   โดยตั้งแต่ที่นายปอนด์ ปีนออกไปบนระเบียงจนภรรยา มาเกลี้ยกล่อมก็ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง  จึงยอมกลับเข้ามา   ก็สร้างความดีใจและโล่งอกทั้งญาติและเจ้าหน้าที่ด้วย   
หลังจากที่นายปอนด์  กลับจากระเบียงแล้ว  จนท.ก็ได้พาตัวไปยังเตียงผู้ป่วย เพื่อตรวจรักษาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ    ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คาดว่านายปอนด์มีภาวะหวาดระแวง สุ่มเสี่ยงที่จะคิดสั้น   ซึ่งแพทย์ก็จะประเมินอาการอีกครั้ง  หากเข้าข่ายภาวะจิตใจไม่ปกติก็อาจจะต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ จ.นครราชสีมา
สอบถาม  ป้าของนายปอนด์  เล่าว่า    ช่วงประมาณ 3 ทุ่มกว่า ได้มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลโทรไปแจ้งว่า  นายปอนด์  หลานชายจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย  ก็ตกใจและรีบไปบอกหลานสะใภ้และเดินทางไป รพ.ทันที   พอไปถึงก็เห็นหลานออกไปนั่งอยู่ตรงระเบียงก็แทบช็อก  จากนั้นก็ให้หลานสะใภ้พูดเกลี้ยกล่อมให้หลานชายใจเย็น   ซึ่งหลานสะใภ้ก็กล่อมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงหลานชายจึงยอมใจอ่อน   ก็คาดว่าสาเหตุที่หลานชายพยายามจะก่อเหตุฆ่าตัวตายนั้น  น่าจะน้อยใจภรรยาเหมือนเดิม  และมีอาการหวาดระแวง   ภรรยา ต้องอยู่ใกล้ตัวเองตลอดเวลา   แต่ช่วงสถานการณ์โควิดก็ไม่สามารถจะทำได้