ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจวางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2564 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ร่วมวางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกร ชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ด้วยพระปรีชาสามารถ ต่อการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การศึกษา การสาธารณสุข ตลอดจนสาธารณูปการ ต่างๆ ทำให้ประเทศไทย มีความเจริญก้าวหน้าและรักษาความเป็นเอกราช มาได้จนถึงทุกวันนี้ และพสกนิกรชาวไทยได้น้อมใจถวาย พระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชน และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวัน “ปิยมหาราช” เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2564 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ร่วมวางพวงมาลา และถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกร ชาวไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ด้วยพระปรีชาสามารถ ต่อการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดิน การศึกษา การสาธารณสุข ตลอดจนสาธารณูปการ ต่างๆ ทำให้ประเทศไทย มีความเจริญก้าวหน้าและรักษาความเป็นเอกราช มาได้จนถึงทุกวันนี้ และพสกนิกรชาวไทยได้น้อมใจถวาย พระราชสมัญญาว่า “พระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชน และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวัน “ปิยมหาราช” เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้