"พิษโควิด" ส่งผลถึง "วาเลนไทน์" ร้านดอกไม้เมืองหนองคายไม่คึกคัก กำลังซื้อลด ยอดขายตก

พิษโควิด-19 ส่งผลถึง วาเลนไทน์ ร้านดอกไม้เมืองหนองคายไม่คึกคัก เศรษฐกิจซบเซาทำคนกำลังซื้อลด ยอดขายตก และยังตรงกับวันหยุด โรงเรียนปิดอีก ทำให้ขายไม่ดี วันนี้ (14 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ที่บริเวณร้านดอกไม้ถนนประจักษ์ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นย่านที่มีร้านจำหน่ายดอกไม้จำนวนมาก พบว่า ปีนี้บรรยากาศเงียบเหงา เพราะปีนี้วันวาเลนไทน์ตรงกับวันอาทิตย์เป็นวันหยุดเรียน เด็กๆ นักเรียนที่เป็นตัวกระตุ้นยอดขาย ไม่มาซื้อ ยอดขายก็ไม่ดีเท่าปีก่อนๆ นางเกวลี วุฒิโกวิท เจ้าของร้านดอกไม้ที่จำหน่ายอยู่ที่หน้าร้านโคตรกระเพรา เล่าว่า ทุกปีช่วงวันลาเลนไทน์ที่ร้านจะคึกคักเป็นพิเศษ แต่ปีนี้กลับไม่คึกคักเท่าที่ควร ทำให้ยอดจำหน่ายดอกไม้สดน้อยลง ผลพวงเศรษฐกิจและโควิด-19 ระบาด รวมถึง เป็นวันหยุดของนักเรียนและวัยรุ่นหนุ่มสาว ส่งผลให้ยอดจากจับจ่ายใช้เงินซบเซาลงไป ปีนี้ขายได้เพียงลูกค้าวัยทำงานเป็นหลัก ส่วนราคาดอกไม้ยังเท่าเดิมเหมือนทุกปี ซึ่งขายดอกกุหลาบเริ่มต้นดอกละ 20 บาท ถึง 50 บาท หรือจัดเป็นช่อ ๆละ 100 บาท - 2,000 บาท หรือ แพงกว่าตามขนาด ความสวยงาม หรือตามที่ลูกค้าสั่งทำ ในส่วนของสีของดอกกุหลาบที่ได้รับความนิยมมากสุดคือสีแดงและสีขาวเหมือนทุกปี ด้านนางสาวรุจรวี ศศิวิลาสกร เจ้าของร้านปุ๊ฟลาวเวอร์ เปิดเผยว่า บรรยากาศการซื้อขายดอกกุหลาบ ในช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้ถือว่าเงียบเหงามาก ยอดสั่งจองซื้อดอกกุหลาบหายไปกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าอาจจะเป็นเพราะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อลดลงผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น โดยลูกค้าที่มีการสั่งจองในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำและชาวต่างชาติที่มีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ในปีนี้จะมาซื้อที่หน้าร้านและมักจะเลือกซื้อราคาที่ไม่ค่อยสูงนักตามสถานการณ์ นอกจากนี้ทางร้านยังมีโครงการคนละครึ่งเพื่อเพิ่มยอดในการซื้ออีกด้วย