จังหวัดปัตตานี ประชุมผู้เกี่ยวข้อง ใน 3 อำเภอติดจังหวัดชายแดนฯ วางมาตรการป้องกันโรควิด - 19 จากแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและเข้มงวดตามชายฝั่งอ่าวไทยทุกอำเภอ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 มค. 2564 ที่หอประชุมอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานประชุม 3 ฝ่าย พร้อมด้วยนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอำเภอกะพ้อ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดนราธิวาส หลังที่ได้มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองถึง 2 ครั้ง ทั้งหมด 52 ราย และตรวจพบมีการติดเชื้อโควิด – 19 เข้ามาถึง 2 ราย จังหวัดปัตตานี จึงได้ประชุมหารือเพื่อกำหนดมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว และคนไทยที่หลบหนีเข้ามาตามช่วงทางธรรมชาติ หลังประเทศเพื่อนบ้านมีการติดเชื้อกันเพิ่มขึ้น วันละหลายพันคน ทำให้มีการประกาศควบคุมการเดินทางระหว่างรัฐและเขตการปกครอง ส่งผลให้มีแรงงานต่างด้าวและคนไทย ลักลอบหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทยกันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณสะพานปลา ถ.หน้าเกลือ ต. บานา จ.ปัตตานี ถือว่าเป็นสถานทีหนึ่งทีอาจจะมีการลักลอบหลบหนีและขึ้นเรือไปยังประเทศอื่นๆ เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวติดกับทะเลอ่าวไทย และเป็นท่าเทียบเรือ จังหวัดปัตตานีจึงกระชับไปยัง จนท.ทุกฝ่าย ให้มีการเฝ้าตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยฌฉพาะกลุ่มแรงงาน เมียมา กัมพูชา และเวียดนาม นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ที่ประชุมกำหนดจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) โดยเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานตามด่านตรวจหลัก และเสริมจุดตรวจให้ครอบคลุมทุกเส้นทาง ที่คาดว่าจะมีการลำเลี่ยงแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามา พร้อมจัดตั้งชุดเฉพาะกิจของหน่วยสาธารณสุข เพื่อนำแรงงานต่างด้าว เข้าสู่ระบบการคัดกรองและกักตัว 14 วัน หลังจากที่ได้มีการควบคุมตัว ตามด่านตรวจหรือที่พักต่าง ๆ ภายหลังการกักตัว ครบ 14 วัน ทางเจ้าหน้าที่ฯ และผู้เกี่ยวข้อง จะทำการสอบสวน แลดำเนินการทางคดีต่อไป สำหรับสถานการณ์โรคโควิด -19 ระลอกใหม่ ของจังหวัดปัตตานี ยังไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศ มีเฉพาะผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ (State quarantine) จำนวน 3 ราย.