อัพเดต!เคสโควิดจากท่าขี้เหล็กเข้าไทยแล้ว 58 - ติดเชื้อในปท.2

สธ.ยืนยัน 58 รายอยู่ในสถานกักกันไม่เกิดการแพร่ระบาด ขณะติดเชื้อต่อในประเทศยังมีแค่ 2 รายที่เชียงราย และสิงห์บุรี เท่านั้น ยังห่วงคนไทยการ์ดตก ย้ำปีใหม่ไปเที่ยวที่ไหนก็ได้แต่ต้องป้องกันตัวเอง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีโควิดจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ภาพรวมมีผู้ติดเชื้อ 58 คน ติดในประเทศ 2 คน ที่ จ.เชียงราย และจ.สิงห์บุรี เท่านั้น โดย 58 รายเกิดในสถานกักกันโรค จะไม่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งกรณีท่าขี้เหล็ก จะพบจุดเสี่ยง พื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกิจกรรมสีเทาผิดกฎหมาย ทำให้มีผู้ลักลอบ เมื่อจับได้จะมีการปกปิดข้อมูลทำให้ยากในการสอบสวน อีกจุดที่ต้องระวังคือ สถานการณ์ในไทยที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมานาน ทำให้คนใส่หน้ากากลดน้อยลง ไม่ค่อยสแกนไทยชนะ ขณะที่มีเฟคนิวส์ค่อนข้างมากทำให้เกิดการตื่นตระหนก แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นบทเรียนและข้อดีทำให้เกิดการร่วมมือภาครัฐ เอกชน อสม. ชายแดนมีการติดตามตรวจสอบ ทั้งชายแดนไทย-ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ร่วมกันอย่างเข้มข้น เช่น เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา จับชาวลาวลอบเข้าเมืองได้ 61 คน แต่ผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ ซึ่งจะผลักดันให้กลับประเทศต่อไป รวมทั้งระยะหลังมีประชาชนร่วมมือมากขึ้นในการแจ้งเบาะแส ขณะที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่สามารถเที่ยวได้ แต่ต้องใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างมีมาตรการป้องกัน ส่วนกรณีมีการสอบถามกันมากถึงความเสี่ยงติดเชื้อกับผู้สัมผัสโรคนั้น ทั้งนี้ ผู้สัมผัสต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ซึ่งในวง ที่ 1 จะติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงสูงความเสี่ยงต่ำ ต้องกักกันโรค และวง 2 ผู้สัมผัสของผู้สัมผัสอีกที โดยสังเกตอาการ เลี่ยงที่ชุมชน กักตัว 14 วัน ขณะวง 3 คือ ผู้สัมผัสกับผู้สัมผัสและผู้สัมผัสอีกที ซึ่งอยู่ห่างไกลจากการติดเชื้อมากเพราะไม่เกี่ยวแต่ต้น จึงไม่ต้องตรวจ ไม่ต้องกักตัว สามารถปฏิบัติตัวเหมือนคนทั่วไปได้ แต่ทั้งนี้ เมื่อวง 1 มีการติดเชื้อ ก็จะนับวงใหม่อีก มีการจัดลำดับใหม่ ทั้งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ใกล้ชิดกัน มีการพูดคุยกันเกิน 5 นาทีขึ้นไป ไอจาม อยู่ในที่แออัด 15 นาทีขึ้นไป และไม่ได้มีการใส่หน้ากาก