ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณี ผู้ใหญ่บ้านกระทำอนาจารสาว กัดดูดตามร่างกายจนฟกช้ำหลายจุด ขณะเมาหลับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ส.ค.63) นางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นาย อ.สนม ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานปกครอง ดูแลในเรื่องวินัยกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ติดตามตัว นายสามารถ กิริยา ผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง ม.13 ต.แคน อ.สนม มาสอบสวนข้อเท็จจริงแต่ไม่พบตัวและไม่สามารถติดต่อได้ตามที่เสนอข่าวไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 12.00 น.ปลัดอำเภอฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่ติดตามพบตัวผู้ใหญ่คนดังกล่าวอีกครั้ง จนพบตัว และนำตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมเสนอเรื่องให้ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม เจ้าของคดี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา กระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกายผู้อื่น แก่ผู้ใหญ่บ้านต้นเหตุแล้ว
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เตรียมตัว นำเอกสารต่างๆที่รวบรวมมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เพื่อเดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม กับเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี โดยมีนายวิโรจน์ ประครองใจ นักวิชาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี มารับเรื่อง และสอบปากคำ นางสาวอัมอรพรรณ เลไทสงค์ เพื่อรวบรวมเหตุการณ์ตลอดทั้งหลักฐานเอกสารที่นำมาร้องขอความเป็นธรรม โดยนางสาว อัมอรพรรณ เปิดเผยว่า ที่มาร้องขอความเป็นธรรม กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี เพราะว่า ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแต่ วันที่ 14 สิงหาคม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ไม่มีความคืบหน้าการดำเนินคดีแต่อย่างใด เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะที่นายวิโรจน์ ประครองใจ นักวิชาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ สาขารัตนบุรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทางศูนย์ดำรงธรรมสุรินทร์ สาขารัตนบุรี ได้รับเรื่องไว้และได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย และจะได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขึ้นสอบปากคำหลายๆคนเพื่อประกอบการพิจารณาและให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ต่อไป
นายพลเศรษฐ์ ดมอุ่นดี ปลัดอาวุโส อ.สนม กล่าวว่า กรณีผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว เราได้เรียกผู้เสียหายมาให้ถ้อยคำกับพนักงานฝ่ายปกครอง กับปลัดอำเภอไปแล้ว ซึ่งพึ่งติดต่อผู้ใหญ่บ้านได้ และพึ่งมาให้อำเภอดำเนินการสอบสวนสอบปากคำเรียบร้อยแล้ววันนี้ และเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย นายอำเภอจึงได้ให้ปลัดอำเภอ ลงไปสืบสภาพในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูล มาประมวล ทำความเห็น ประมวลประกอบถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเมื่อมีพฤติการอันทำให้เสื่อมเสีย ก็จะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ ได้บัญญัติไว้ว่า ให้นำระเบียบข้าราชการพลเรือน วินัยเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือน มาปรับใช้ กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วย กระบวนการเมื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิดแล้ว เข้าข่ายกระทำผิดวินัย มีทั้งวินัยร้ายแรง และไม่ร้ายแรง เมื่อสอบสวนแล้วเข้าข่ายวินัยร้ายแรง ก็มีโทษเท่ากับข้าราชการพลเรือน ก็จะถูกปลดออกไล่ออก ซึ่งขณะนี้ปลัดอยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสภาพ เพื่อมาประกอบทำความเห็นเสนอให้จังหวัดพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป
นายพลเศรษฐ์ ดมอุ่นดี ปลัดอาวุโส อ.สนม กล่าวว่า กรณีผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว เราได้เรียกผู้เสียหายมาให้ถ้อยคำกับพนักงานฝ่ายปกครอง กับปลัดอำเภอไปแล้ว ซึ่งพึ่งติดต่อผู้ใหญ่บ้านได้ และพึ่งมาให้อำเภอดำเนินการสอบสวนสอบปากคำเรียบร้อยแล้ววันนี้ และเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย นายอำเภอจึงได้ให้ปลัดอำเภอ ลงไปสืบสภาพในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูล มาประมวล ทำความเห็น ประมวลประกอบถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเมื่อมีพฤติการอันทำให้เสื่อมเสีย ก็จะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ ได้บัญญัติไว้ว่า ให้นำระเบียบข้าราชการพลเรือน วินัยเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือน มาปรับใช้ กับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านด้วย กระบวนการเมื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ชี้มูลความผิดแล้ว เข้าข่ายกระทำผิดวินัย มีทั้งวินัยร้ายแรง และไม่ร้ายแรง เมื่อสอบสวนแล้วเข้าข่ายวินัยร้ายแรง ก็มีโทษเท่ากับข้าราชการพลเรือน ก็จะถูกปลดออกไล่ออก ซึ่งขณะนี้ปลัดอยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสภาพ เพื่อมาประกอบทำความเห็นเสนอให้จังหวัดพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป