วันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายแพทย์วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และแพทย์หญิง เพิ่มศิริ เลอมานุวรรัตน์ ผอ.โรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษ โดยสรุปว่าจังหวัดศรีสะเกษ พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้โควิด-19 จำนวน 1 ราย และรอผลการตรวจอีก 1 ราย ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษมีผู้ป่วยที่เข้าข่ายการเฝ้าระวังโรคตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2563 ทั้งสิ้นจำนวน 30 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้วจำนวน 26 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4 ราย มีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจำนวน 241 ราย เฝ้าระวังครบ14 วัน จำนวน 155 ราย ยังอยู่ในระยะเฝ้าระวัง 86 ราย อาการปกติ
สำหรับผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1 ราย นั้นเป็นเพศชาย อายุ 36 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก เป็นกลุ่มที่สัมผัสจากเวทีลุมพินี คือ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ผู้ติดเชื้อได้เดินทางเข้าไปในเวทีมวยลุมพินี จากนั้นวันที่ 9 มีนาคม 2563 มีการไอ จาม จึงได้ซื้อยามาทาน ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้ไปหาหมอที่ รพ.ในจังหวัดชลบุรี ตรวจรักษาไม่พบเชื้อ วันที่ 16 มีนาคม 2563 จึงเดินทางกลับมาบ้าน ที่อำเภอวังหิน ด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีผู้เดินทางมาด้วย 3 คน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 มีไข้ ไอ เหนื่อยเพลีย จึงเข้ามาตรวจที่ รพ.เอกชนในตัวเมืองศรีสะเกษ แพทย์พบว่ามีอาการไข้ มีประวัติเสี่ยงจากเวทีมวยลุมพินี จึงส่งตัวมาเข้าห้องแยกโรคที่ รพ.ศรีสะเกษ และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผลการตรวจพบว่า เป็นผู้ติดเชื้อไข้โควิด-19 และเป็นรายแรกของจังหวัดศรีสะเกษ
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการดูแลพี่น้องประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ เราได้มีการตั้งทีม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ วางมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ดูแล ตรวจคัดกรอง ติดตามซักประวัติ โดยแยกเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ กับผู้ที่เดินทางกลับมาบ้านภายในประเทศ โดยขณะนี้ ผลจากแล็ป ยืนยันว่า ผู้ที่มาจากการไปร่วมในเวทีมวยลุมพินี มีอาการไข้ เราได้ให้พักอยู่ในห้องคัดแยก ผลปรากฎชัดแล้วว่า เป็นผู้ที่ติดเชื้อไข้โควิด-19 รายแรกและรายเดียว แต่ขณะนี้ยังรอผลการตรวจจากแล็ปอีก 1 ราย ซึ่งทั้งสองคนยังมีสุขภาพที่แข็งแรง ได้รับการดูแลอย่างดีจาก รพ.ศรีสะเกษ อีกกลุ่มที่เดินทางมาบ้าน ก่อนหน้านี้ มีการดูแลตรวจเฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน และไม่พบอาการไข้ ไอ จาม ส่วนอีก 241 คน ทยอยรอให้ เฝ้าระวังกักตัวอยู่บ้านไปเรื่อย ให้ครบ 14 วัน และที่จะต้องฝากญาติพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจาก ห้างสรรพสินค้า บริษัท ปิดตัวลงในเขตกรุงเทพ ซึ่งไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ ขอให้ญาติพี่น้อง โทรบอกลูกหลานว่า หากไม่จำเป็นก็ขอให้พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ กักตนเองให้ครบ 14 วันก่อนแล้วค่อยเดินทาง เพราะการเดินทางกลับมาบ้าน อาจจะเป็นการนำเชื้อโรคมาแพร่ที่บ้าน สู่พ่อแม่ ลูกหลาน ญาติอันเป็นที่รักของตนเองก็ได้ ขอความร่วมมือในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์ลดการเดินทางเข้ามาในพื้นที่และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้ามาโดยแจ้งผู้ปกครองท้องที่เพื่อเป็นข้อมูลในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค
ด้าน นายแพทย์วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีของทั้งสองผู้ต้องสงสัยที่เฝ้าระวังในห้องแยกโรค และปรากฏผลมาว่า เป็นผู้ติดเชื้อรายแรกนี้ มีประวัติมาจากเวทีมวยลุมพินี ก็ขอประกาศอย่างแรกคือ ใครที่ไปในเวทีมวยลุมพินี แล้วกลับมาบ้าน แล้วมีอาการ ไอแห้ง จาม มีไข้ขึ้นๆ ลงๆ ก็ให้เร่งมาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาจากทีมแพทย์ อย่างที่สองคือ ใครที่ไปสัมผัสกับผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ ขอให้แยกตนเองออกจากผู้อื่น แยกการใช้ชีวิต การกิน การอยู่ เพราะตอนนี้ผู้ที่รับการตรวจ ได้รับการดูแล แนะนำ เฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน 241 คน และเมื่อครบกำหนดไม่พบการติดเชื้อก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแบบไม่ประมาท ส่วนผู้คนปกติ ก็ขอให้อย่าเดินทางพบปะผู้คนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ห่างจากการไปติดเชื้อ และหากพบว่าตนมีอาการน่าสงสัย ขอให้ไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาโดยเร่งด่วนต่อไป ทุกคนสามารถทำตนให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคร้ายนี้ได้ด้วยตนเอง
ดร กัลยาณี ธรรมจารีย์ / ศรีสะเกษ
สำหรับผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1 ราย นั้นเป็นเพศชาย อายุ 36 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดชลบุรี มีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก เป็นกลุ่มที่สัมผัสจากเวทีลุมพินี คือ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 ผู้ติดเชื้อได้เดินทางเข้าไปในเวทีมวยลุมพินี จากนั้นวันที่ 9 มีนาคม 2563 มีการไอ จาม จึงได้ซื้อยามาทาน ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2563 ได้ไปหาหมอที่ รพ.ในจังหวัดชลบุรี ตรวจรักษาไม่พบเชื้อ วันที่ 16 มีนาคม 2563 จึงเดินทางกลับมาบ้าน ที่อำเภอวังหิน ด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีผู้เดินทางมาด้วย 3 คน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 มีไข้ ไอ เหนื่อยเพลีย จึงเข้ามาตรวจที่ รพ.เอกชนในตัวเมืองศรีสะเกษ แพทย์พบว่ามีอาการไข้ มีประวัติเสี่ยงจากเวทีมวยลุมพินี จึงส่งตัวมาเข้าห้องแยกโรคที่ รพ.ศรีสะเกษ และเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผลการตรวจพบว่า เป็นผู้ติดเชื้อไข้โควิด-19 และเป็นรายแรกของจังหวัดศรีสะเกษ
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการดูแลพี่น้องประชาชนในจังหวัดศรีสะเกษ เราได้มีการตั้งทีม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ วางมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ดูแล ตรวจคัดกรอง ติดตามซักประวัติ โดยแยกเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ กับผู้ที่เดินทางกลับมาบ้านภายในประเทศ โดยขณะนี้ ผลจากแล็ป ยืนยันว่า ผู้ที่มาจากการไปร่วมในเวทีมวยลุมพินี มีอาการไข้ เราได้ให้พักอยู่ในห้องคัดแยก ผลปรากฎชัดแล้วว่า เป็นผู้ที่ติดเชื้อไข้โควิด-19 รายแรกและรายเดียว แต่ขณะนี้ยังรอผลการตรวจจากแล็ปอีก 1 ราย ซึ่งทั้งสองคนยังมีสุขภาพที่แข็งแรง ได้รับการดูแลอย่างดีจาก รพ.ศรีสะเกษ อีกกลุ่มที่เดินทางมาบ้าน ก่อนหน้านี้ มีการดูแลตรวจเฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน และไม่พบอาการไข้ ไอ จาม ส่วนอีก 241 คน ทยอยรอให้ เฝ้าระวังกักตัวอยู่บ้านไปเรื่อย ให้ครบ 14 วัน และที่จะต้องฝากญาติพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจาก ห้างสรรพสินค้า บริษัท ปิดตัวลงในเขตกรุงเทพ ซึ่งไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ ขอให้ญาติพี่น้อง โทรบอกลูกหลานว่า หากไม่จำเป็นก็ขอให้พักอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ กักตนเองให้ครบ 14 วันก่อนแล้วค่อยเดินทาง เพราะการเดินทางกลับมาบ้าน อาจจะเป็นการนำเชื้อโรคมาแพร่ที่บ้าน สู่พ่อแม่ ลูกหลาน ญาติอันเป็นที่รักของตนเองก็ได้ ขอความร่วมมือในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์ลดการเดินทางเข้ามาในพื้นที่และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้ามาโดยแจ้งผู้ปกครองท้องที่เพื่อเป็นข้อมูลในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค
ด้าน นายแพทย์วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีของทั้งสองผู้ต้องสงสัยที่เฝ้าระวังในห้องแยกโรค และปรากฏผลมาว่า เป็นผู้ติดเชื้อรายแรกนี้ มีประวัติมาจากเวทีมวยลุมพินี ก็ขอประกาศอย่างแรกคือ ใครที่ไปในเวทีมวยลุมพินี แล้วกลับมาบ้าน แล้วมีอาการ ไอแห้ง จาม มีไข้ขึ้นๆ ลงๆ ก็ให้เร่งมาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาจากทีมแพทย์ อย่างที่สองคือ ใครที่ไปสัมผัสกับผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ ขอให้แยกตนเองออกจากผู้อื่น แยกการใช้ชีวิต การกิน การอยู่ เพราะตอนนี้ผู้ที่รับการตรวจ ได้รับการดูแล แนะนำ เฝ้าระวังอยู่ที่บ้าน 241 คน และเมื่อครบกำหนดไม่พบการติดเชื้อก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแบบไม่ประมาท ส่วนผู้คนปกติ ก็ขอให้อย่าเดินทางพบปะผู้คนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ห่างจากการไปติดเชื้อ และหากพบว่าตนมีอาการน่าสงสัย ขอให้ไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาโดยเร่งด่วนต่อไป ทุกคนสามารถทำตนให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคร้ายนี้ได้ด้วยตนเอง
ดร กัลยาณี ธรรมจารีย์ / ศรีสะเกษ