กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมนงนุช เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศอีกประมาณ 5,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้ไทยผลิตได้เพิ่มจากปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันดิบ 1.25 แสนบาร์เรล/วัน ความต้องการใช้น้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วัน
	
นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการปิโตรเลียมที่มีปลัดกระทรวงพลังงาน  ในการประชุมเมื่อวันที่ 27 ม.ค.63 เห็นชอบให้มีการอนุมัติกำหนดพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมนงนุช 363.05 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอยู่ในแปลงสำรวจทะเลอ่าวไทยตามการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 19 ในพื้นที่แปลงหมายเลข G11/48  หรือแหล่งนงเยาว์ บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดนราธิวาส นับเป็นแหล่งผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง จากเดิมมีกำลังผลิตน้ำมันประมาณ 10,000 บาร์เรล/วัน ดำเนินการโดยบริษัท เอ็มพี จี 11 (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทมูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) เป็นผู้ดำเนินงาน โดยเบื้องต้นมีการประเมินอัตราการผลิตน้ำมันดิบจากพื้นที่ผลิตดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาร์เรล/วัน โดยบริษัทผู้ดำเนินงานมีแผนจะผลิตปิโตรเลียมพื้นที่ดังกล่าวในช่วงปี 2564-2576
	
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีการเปิดให้สิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ใหม่ๆเพิ่มเติม แต่การดำเนินงานสัมปทานเดิมได้มีการสำรวจพบและอนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติมอยู่บ้าง ซึ่งการอนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมนงนุชครั้งนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ จากเดิมผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเลอยู่ที่ประมาณ 125,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งนับเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานจากแหล่งในประเทศเพิ่มขึ้น
 
        

