คลังพร้อมเดินหน้ารับนโยบาย“สมคิด”เปิดชิมช้อปใช้เฟส2 ภายในต.ค.นี้ แต่ไม่เพิ่มคน ชี้ 10 ล้านคนกำลังดีแต่จะเน้นกระตุ้นให้จับจ่ายกระเป๋า 2ระบุเฟสแรกชิมช้อปใช้ถ้าวันที่ 10 เต็ม 10 ล้านคนพร้อมเปิดให้ลงได้ต่อ นำสิทธิคนลงทะเบียนไม่ผ่านกว่า 2 ล้านคน มาเปิดให้ลงต่อจนครบ นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาขยายการลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟส 2ว่า ขอประเมินผลของมาตรการชุดแรกที่เพิ่งดำเนินการก่อนว่าคนที่ลงทะเบียนจะมีการใช้จ่ายอย่างไร ถ้าจะมีอะไรออกมาเพิ่มเติมจะสรุปภายในเดือนต.ค.62 ซึ่งหากต้องทำ สศค.อยากกระตุ้นการใช้จ่ายในส่วนกระเป๋า 2 มากกว่าการเพิ่มจำนวนให้มากกว่า 10 ล้านคน เพราะมองว่าจำนวนกำหนดไว้ 10 ล้านคนนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังในการใช้จ่ายเพิ่มจากเงิน 1,000 บาทที่รัฐบาลแจกให้ โดยการใช้จ่ายกระเป๋า 2 เพิ่งเริ่มต้น ประชาชนต้องใช้สิทธิในกระเป๋าที่ 1 ให้หมดก่อนจึงจะใช้กระเป๋า 2 ได้ ซึ่งกระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายว่าจะมีคนมาใช้สิทธิ์ในประเป๋า 2 ประมาณ 3 ล้านคน วงเงินใช้จ่ายเฉลี่ย 13,500 บาทต่อคน ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเท่าที่พูดคุยกับผู้ลงทะเบียนพบว่ามีจำนวนมากเตรียมใช้สิทธิ์ในกระเป๋า 2 เนื่องจากสามารถใช้ได้ทั่วประเทศ และในช่วงเดือนต.ค.62 มีวันหยุดยาวหลายวัน ดังนั้นน่าจะเป็นการกระตุ้นการใช้กระเป๋า 2 ได้พอสมควร ทั้งนี้มีประชาชนที่ได้รับสิทธิ์เริ่มใช้จ่ายวันที่ 27-30 ก.ย.62 รวม 4 วัน ประมาณ 5 แสนราย มียอดการใช้จ่ายประมาณ 440 ล้านบาท เพิ่มจากวันที่ผ่านมาประมาณ 140 ล้านบาท โดยมียอดการใช้จ่ายเพิ่มในกระเป๋าที่ 2 เพื่อรับสิทธิ์คืนเงิน 15% ไปแล้วกว่า 2,000 คน รายวงเงิน 6 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคนละประมาณ 2,500 บาท สำหรับการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ยังมีคนจองสิทธิเต็ม 1 ล้านคนทุกวันและหากเปิดลงครบ 10 ล้านคนในช่วง 10 วันแรกแล้วกระทรวงการคลังจะยังเปิดให้ลงทะเบียนได้ต่อเนื่องโดยนำสิทธิของผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบซึ่งปัจจุบันมีประมาณ2ล้านคนมาให้ลงทะเบียนต่อเนื่องในวันถัดไปจนกว่าจะได้คนผ่านสิทธิเต็มครบ10ล้านคนตามเป้าหมายที่กำหนด “ผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิส่วนใหญ่เกิดจากการกรอกข้อมูลลงทะเบียนผิดทั้งในส่วนกรอกรหัสผ่านโอทีพีไม่ทันเวลากำหนดรองลงมาเป็นกรอกชื่อนามสกุลที่อยู่หมายเลขบัตรประชาชนผิดพลาดและเลือกจังหวัดซ้ำกับที่อยู่ทะเบียนบ้าน ส่วนยอดการใช้จ่ายของผู้ได้สิทธิ์ในช่วง4วันแรกคือวันที่ 27-30 ก.ย.62มีผู้ได้รับสิทธิ์ไปใช้จ่ายแล้วกว่า5แสนรายคิดเป็นวงเงินใช้จ่าย 440 ล้านบาทโดยส่วนใหญ่ไปใช้จ่ายในร้านค้าโอทอปและสินค้าชุมชน”