“บิ๊กตู่” จะอยู่ยาว 8 ปี ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่บรรดานายทหารสาย “3 ป.” เคยพูดมาแล้ว ตั้งแต่ ก่อนการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 เสียอีก
ในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ. เป็นปีที่ 4 สถานการณ์บ้านเมืองตึงเครียด จนไม่มีทางออกอื่นนอกจากการรัฐประหาร
แต่รัฐประหารคราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ทำเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา คือนอกจากเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติแล้ว จะยังเป็นนายกรัฐมนตรี เองอีกด้วย และจะอยู่ 5 ปี แล้วจึงจะให้มีการเลือกตั้ง
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นำรัฐประหารในนาม คสช. และเป็นนายกฯเอง และใช้กลไกต่างๆ จนสามารถ ยืดและยื้อเวลา จนเป็นนายกฯได้ถึง 5 ปี ก่อน ตั้งพรรคการเมือง “พลังประชารัฐ” และจัดให้มีการเลือกตั้ง ด้วยรัฐธรรมนูญที่ใช้เวลาร่างมาอย่างแยบยล และออกแบบมา เพื่อที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ โดยเฉพาะ การมี ส.ว. 250 คน
ในช่วงปลายๆของรัฐบาล คสช. เริ่มมีการพูดถึง “เปรม โมเดล” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเป็นนายกฯยาว 8 ปี เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา และจัดวางทุกอย่างไว้อย่างเบ็ดเสร็จ
หลังการกลับมาเป็นนายกฯและตั้งรัฐบาล แม้เสียงปริ่มน้ำ แต่คำว่า “บิ๊กตู่ อยู่ยาว” ก็ถูกพูดถึง ว่าจะอยู่ครบเทอม 4 ปี และ ต่ออีก 4 ปี รวม 2 สมัย 8 ปี
นั่นหมายถึง จะลงสู้ศึกเลือกตั้ง ในครั้งหน้า จึงทำให้ต้อง ส่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ไปคุมพรรคพลังประชารัฐ ด้วยการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อ ทำให้พรรคพลังประชารัฐ มั่นคง ถาวร และกลมเกลียว ไม่แตกแยก
ที่สำคัญคือ การที่กำหนดให้ 250 ส.ว. มีวาระ 5 ปี ก็ย่อมหมายถึง ส.ว. จะสามารถโหวตเลือกนายกฯได้อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยที่ ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าส่วนไหน เกิดขึ้น ใน 4 ปีแรก นี้แน่นอน
นั่นหมายถึง โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ จะชนะเลือกตั้ง หรือหากเสียงสูสี ก็ยังมี ส.ว. 250 คน พร้อมโหวตให้เป็นนายกฯได้อีกสมัย
รวม 2 สมัย 8 ปี และหากนับรวม การเป็นนายกฯในยุครัฐบาล คสช.อีก 5 ปี ก็เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ ยาวนานถึง 13 ปี เลยทีเดียว
แต่หลังจากที่ “ซินแส” ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ออกมาทำนายทายทักว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ยาว 2 สมัย รวมอีก 8ปี ก็ยิ่งทำให้ ความเชื่อที่ว่า บิ๊กตู่ จะอยู่ยาว 8 ปี ยิ่งหนักแน่นขึ้น
ไม่ใช่แค่เรื่องดวงดี โชคชะตา ฟ้ากำหนดเท่านั้น แต่ ยังเพราะ โหงวเฮ้งของ “พี่น้อง 3ป.” “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ดีอีกด้วย จึงทำให้จะอยู่ยาว ในฐานะที่เป็นเสาหลักที่คุ้มบ้านเมืองอยู่ ต่อไป
และอาจเรียกได้ว่า ดวงชะตาของ 3 พี่น้อง ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั้น เกื้อหนุนต่อกัน เพราะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาด้วยกันได้ แต่เหตุการณ์กระชับพื้นที่คนเสื้อแดง ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2552-2553 นั้นหนักหนาสาหัสแล้ว ก็ยังผ่านมาได้
จนมาถึงยุคเฟื่องฟูที่สุด ในยุครัฐบาล คสช. ที่ถือว่า พี่น้อง 3 ป. เดินเกม และวางแผนได้ถูกต้อง จนสามารถทำให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัย หลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเพราะมี ตัวช่วยอะไรก็ตาม
ประการสำคัญที่ทำให้ 3ป.พี่น้องอยู่กันมาได้ยาวนาน โดยไม่มีปัญหาเรื่องความแตกแยก หรือขัดแย้งกันเอง ก็เพราะความที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน กว่า 40-50ปี จนทำให้ไม่มีใครสามารถตอกลิ่ม ทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือหวาดระแวงกันเอง
ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้กุมอำนาจ ยังคงทำตัวเป็น “น้องตู่ น้องเล็ก” ที่น่ารักของพี่เสมอๆ หาได้เหลิงอำนาจ เพียงลำพังคนเดียว
ทั้งนี้เป็นเพราะ ทั้ง 3 พี่น้องทหารเสือราชินี นั้นเติบโตมาในร.21รอ. เมืองชลบุรี มาด้วยกัน
ดวงชะตาชักนำพาให้ ทั้ง 3 คนได้มาอยู่ร่วมหน่วย ร.21รอ.ด้วยกัน และถูกชะตาถูกโฉลกกัน และด้วยความเป็นพี่ป้อม พี่ใหญ่ เป็นผู้นำ ตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ ทำให้พวกเขาจึงมาผูกพันใกล้ชิดกัน ถึงขั้นที่ กินนอนอยู่บ้านหลังเดียวกัน
ซึ่งก็เป็นบ้านพักในค่ายนวมินทราฯของ ผู้กองป้อม พล.อ.ประวิตร ที่ตอนนั้นเป็น ร้อยเอก เป็น ผู้บังคับกองร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้รำลึกความหลัง ในตอนหนึ่ง ที่ไปฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติของ วปอ.61 เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา เพื่อที่จะอธิบายสายสัมพันธ์ของ 3 พี่น้อง ที่ใครๆอาจไม่เข้าใจ
“เราสามคน เป็นเรื่องไม่มีเข้าใจหรอก แต่เราอยู่ชายแดนมาด้วยกันมีความห่วงใย และร่วมชะตากรรมกันมา อยู่บ้านหลังเดียวกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พร้อมเล่าว่า ตนเอง เป็นทหารบรรจุราชการครั้งแรก ในยศร้อยตรี ไปรายงานตัว ที่ร.21รอ. กับพล.อ.ประวิตร ซึ่งตอนนั้นเป็น ผบ.ร้อยนั่งสมาร์ทอยู่ “ผมก็คิดว่า คนนี้เป็นใคร ส่วนผมก็เดินส่ายอาดๆ ท่านก็คงคิดว่า ไอ้นี่ แน่แค่ไหน ก็ต้องพิสูจน์ตนเองกว่าจะได้รับความไว้วางใจ”
“ผมโตมาแบบนี้ กับพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ก็อยู่ นอนบ้านเดียวกันมาโดยตลอด ดังนั้นความสัมพันธ์ มีมากกว่า 40 ปี ไม่ใช่เรื่องของการตอบแทน หรือผลประโยชน์
แต่ผมมีหลักการในการทำงาน ถ้าทำดีต้องได้ดี แต่ถ้าทำไม่ดี แม้จะเป็นพี่ รักมากเพียงใด ก็ไม่ให้ ทุกคนต้องรู้หน้าที่และวางบทบาทตัวเองให้ชัดเจน หนักแน่นในการทำงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
แต่ที่ต้องระวังคือบริวาร คนรอบๆตัว ด้วยเพราะที่ผ่านมา มักมีคนอ้างชื่อ พี่น้อง 3ป. เสมอ ดังนั้นหากใครอ้างก็จะถูกเล่นงาน และเมื่อมีข้อสงสัย ให้สอบถามทั้ง 3 คนได้ โดยเฉพาะการซื้อตำแหน่ง
“ทั้งหมดนี้ ที่ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะ พี่ผมสอนมา ไม่มีใครเข้าใจหรอก ถ้าเราไม่ร่วมเป็นร่วมตายกัน อยู่ชายแดนมาด้วยกัน ความห่วงใยที่มาให้กัน ร่วมชะตากรรมกันมา” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ดังนั้น หาก พี่น้อง 3ป. แนบแน่นกันเช่นนี้ตลอดไป แถมดวงชะตาต้องกัน เสริมกัน เช่นนี้ ...... การอยู่ยาว 8 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวว่า “ไม่สงสารผมบ้างเหรอ”
ส่วน พล.อ.ประวิตร ก็จะขอแค่ 4 ปีแรกนี้ให้รอดก่อน แต่อยู่ 8 ปีคงไม่ไหว ในเรื่องสุขภาพ ก็ตาม
ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงบริหารจัดการกองทัพได้ กองทัพยังไม่มีปัญหาแตกแยกแบ่งข้าง รุนแรง และยังคงเป็นฐานอำนาจสำคัญของรัฐบาล จึงทำให้เก้าอี้มั่นคง
แถมทั้งยังมี สัญญาณดีๆ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ เกิดขึ้นเสมอๆ และทำให้รู้ว่า หนทางของถนนการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ สายนี้ยังอีกยาวไกล
เพราะ ชะตา ฟ้ากำหนดไว้แล้ว.....!
นั่นหมายถึง จะลงสู้ศึกเลือกตั้ง ในครั้งหน้า จึงทำให้ต้อง ส่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ ไปคุมพรรคพลังประชารัฐ ด้วยการเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เพื่อ ทำให้พรรคพลังประชารัฐ มั่นคง ถาวร และกลมเกลียว ไม่แตกแยก
ที่สำคัญคือ การที่กำหนดให้ 250 ส.ว. มีวาระ 5 ปี ก็ย่อมหมายถึง ส.ว. จะสามารถโหวตเลือกนายกฯได้อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยที่ ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าส่วนไหน เกิดขึ้น ใน 4 ปีแรก นี้แน่นอน
นั่นหมายถึง โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ จะชนะเลือกตั้ง หรือหากเสียงสูสี ก็ยังมี ส.ว. 250 คน พร้อมโหวตให้เป็นนายกฯได้อีกสมัย
รวม 2 สมัย 8 ปี และหากนับรวม การเป็นนายกฯในยุครัฐบาล คสช.อีก 5 ปี ก็เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ ยาวนานถึง 13 ปี เลยทีเดียว
แต่หลังจากที่ “ซินแส” ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ออกมาทำนายทายทักว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ยาว 2 สมัย รวมอีก 8ปี ก็ยิ่งทำให้ ความเชื่อที่ว่า บิ๊กตู่ จะอยู่ยาว 8 ปี ยิ่งหนักแน่นขึ้น
ไม่ใช่แค่เรื่องดวงดี โชคชะตา ฟ้ากำหนดเท่านั้น แต่ ยังเพราะ โหงวเฮ้งของ “พี่น้อง 3ป.” “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ดีอีกด้วย จึงทำให้จะอยู่ยาว ในฐานะที่เป็นเสาหลักที่คุ้มบ้านเมืองอยู่ ต่อไป
และอาจเรียกได้ว่า ดวงชะตาของ 3 พี่น้อง ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั้น เกื้อหนุนต่อกัน เพราะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาด้วยกันได้ แต่เหตุการณ์กระชับพื้นที่คนเสื้อแดง ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2552-2553 นั้นหนักหนาสาหัสแล้ว ก็ยังผ่านมาได้
จนมาถึงยุคเฟื่องฟูที่สุด ในยุครัฐบาล คสช. ที่ถือว่า พี่น้อง 3 ป. เดินเกม และวางแผนได้ถูกต้อง จนสามารถทำให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัย หลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเพราะมี ตัวช่วยอะไรก็ตาม
ประการสำคัญที่ทำให้ 3ป.พี่น้องอยู่กันมาได้ยาวนาน โดยไม่มีปัญหาเรื่องความแตกแยก หรือขัดแย้งกันเอง ก็เพราะความที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน กว่า 40-50ปี จนทำให้ไม่มีใครสามารถตอกลิ่ม ทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือหวาดระแวงกันเอง
ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้กุมอำนาจ ยังคงทำตัวเป็น “น้องตู่ น้องเล็ก” ที่น่ารักของพี่เสมอๆ หาได้เหลิงอำนาจ เพียงลำพังคนเดียว
ทั้งนี้เป็นเพราะ ทั้ง 3 พี่น้องทหารเสือราชินี นั้นเติบโตมาในร.21รอ. เมืองชลบุรี มาด้วยกัน
ดวงชะตาชักนำพาให้ ทั้ง 3 คนได้มาอยู่ร่วมหน่วย ร.21รอ.ด้วยกัน และถูกชะตาถูกโฉลกกัน และด้วยความเป็นพี่ป้อม พี่ใหญ่ เป็นผู้นำ ตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ ทำให้พวกเขาจึงมาผูกพันใกล้ชิดกัน ถึงขั้นที่ กินนอนอยู่บ้านหลังเดียวกัน
ซึ่งก็เป็นบ้านพักในค่ายนวมินทราฯของ ผู้กองป้อม พล.อ.ประวิตร ที่ตอนนั้นเป็น ร้อยเอก เป็น ผู้บังคับกองร้อย
พล.อ.ประยุทธ์ จึงได้รำลึกความหลัง ในตอนหนึ่ง ที่ไปฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติของ วปอ.61 เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา เพื่อที่จะอธิบายสายสัมพันธ์ของ 3 พี่น้อง ที่ใครๆอาจไม่เข้าใจ
“เราสามคน เป็นเรื่องไม่มีเข้าใจหรอก แต่เราอยู่ชายแดนมาด้วยกันมีความห่วงใย และร่วมชะตากรรมกันมา อยู่บ้านหลังเดียวกัน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พร้อมเล่าว่า ตนเอง เป็นทหารบรรจุราชการครั้งแรก ในยศร้อยตรี ไปรายงานตัว ที่ร.21รอ. กับพล.อ.ประวิตร ซึ่งตอนนั้นเป็น ผบ.ร้อยนั่งสมาร์ทอยู่ “ผมก็คิดว่า คนนี้เป็นใคร ส่วนผมก็เดินส่ายอาดๆ ท่านก็คงคิดว่า ไอ้นี่ แน่แค่ไหน ก็ต้องพิสูจน์ตนเองกว่าจะได้รับความไว้วางใจ”
“ผมโตมาแบบนี้ กับพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ก็อยู่ นอนบ้านเดียวกันมาโดยตลอด ดังนั้นความสัมพันธ์ มีมากกว่า 40 ปี ไม่ใช่เรื่องของการตอบแทน หรือผลประโยชน์
แต่ผมมีหลักการในการทำงาน ถ้าทำดีต้องได้ดี แต่ถ้าทำไม่ดี แม้จะเป็นพี่ รักมากเพียงใด ก็ไม่ให้ ทุกคนต้องรู้หน้าที่และวางบทบาทตัวเองให้ชัดเจน หนักแน่นในการทำงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
แต่ที่ต้องระวังคือบริวาร คนรอบๆตัว ด้วยเพราะที่ผ่านมา มักมีคนอ้างชื่อ พี่น้อง 3ป. เสมอ ดังนั้นหากใครอ้างก็จะถูกเล่นงาน และเมื่อมีข้อสงสัย ให้สอบถามทั้ง 3 คนได้ โดยเฉพาะการซื้อตำแหน่ง
“ทั้งหมดนี้ ที่ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะ พี่ผมสอนมา ไม่มีใครเข้าใจหรอก ถ้าเราไม่ร่วมเป็นร่วมตายกัน อยู่ชายแดนมาด้วยกัน ความห่วงใยที่มาให้กัน ร่วมชะตากรรมกันมา” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
ดังนั้น หาก พี่น้อง 3ป. แนบแน่นกันเช่นนี้ตลอดไป แถมดวงชะตาต้องกัน เสริมกัน เช่นนี้ ...... การอยู่ยาว 8 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกตัวว่า “ไม่สงสารผมบ้างเหรอ”
ส่วน พล.อ.ประวิตร ก็จะขอแค่ 4 ปีแรกนี้ให้รอดก่อน แต่อยู่ 8 ปีคงไม่ไหว ในเรื่องสุขภาพ ก็ตาม
ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงบริหารจัดการกองทัพได้ กองทัพยังไม่มีปัญหาแตกแยกแบ่งข้าง รุนแรง และยังคงเป็นฐานอำนาจสำคัญของรัฐบาล จึงทำให้เก้าอี้มั่นคง
แถมทั้งยังมี สัญญาณดีๆ สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ เกิดขึ้นเสมอๆ และทำให้รู้ว่า หนทางของถนนการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ สายนี้ยังอีกยาวไกล
เพราะ ชะตา ฟ้ากำหนดไว้แล้ว.....!