เสือตัวที่ 6

ขบวนการต่อสู้กับรัฐเพื่อแบ่งแยกตนเองออกเป็นรัฐอิสระสู่เอกราชบนดินแดนที่พวกเขาเรียกว่าปาตานี มีการขับเคลื่อนอย่างเป็นขบวนการที่เป็นระบบ มีการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์สำคัญประการหนึ่งคือการแยกกันเดิน แยกกันขับเคลื่อน แต่ร่วมกันโจมตีรัฐที่เป็นฝ่ายตรงข้ามอย่างสอดประสานกลมกลืนกันอย่างมืออาชีพ เพื่อเดินหน้าสู่อิสรภาพในการดำรงอยู่ของพวกเขาโดยมีอำนาจการปกครองกันเองและอธิปไตยเหนือดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้ให้ได้ เป้าหมายการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์อันชัดเจนว่ารัฐเอกราชปาตานีแห่งนี้มีอาณาเขตแค่ไหน พวกเขาจะขับเคลื่อนการต่อสู้ในทุกมิติไปพร้อมๆ กันอย่างมีจังหวะก้าว ควบคู่กับการก่อการร้ายเฉพาะในพื้นที่ปาตานีแห่งนี้อย่างชัดเจน หากมีเพียงบางครั้งที่มีการก่อการร้ายนอกพื้นที่สู้รบในปาตานีก็เพื่อแสดงศักยภาพของขบวนการร้ายของพวกเขาให้รัฐและโลกภายนอกได้รับรู้เท่านั้น ในขณะที่เป้าหมายเฉพาะพื้นที่รัฐเอกราชปาตานีที่พวกเขาประกาศกร้าวไว้ยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้นเหมือนเดิม

ยุทธศาสตร์แยกกันเดินแต่ร่วมกันตีที่เป้าหมายเดียวกันนับเป็นความแยบยลของแกนนำขบวนการร้ายแห่งนี้ที่ดำเนินการต่อสู้ในทุกมิติพร้อมๆ กันเพื่อเอกราชตานีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการก่อเหตุร้ายสร้างความรุนแรงเสียหายทั้งการเข่นฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายโดยไม่เลือกหน้าเป็นกลไกสำคัญในการต่อสู้ ด้วยกลุ่มกองโจรติดอาวุธเหล่านั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเป็นระบบ จนขยายตัวจัดตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธและกลไกแนวร่วมมวลชนที่เป็นส่วนสนับสนุนกองกำลังกองโจรติดอาวุธโดยส่งผ่านแนวคิดที่เป็นปรปักษ์กับรัฐจากกลุ่มผู้นำศาสนาและครูสอนศาสนาที่ร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบการศึกษาโดยเฉพาะคนในชุมชนท้องถิ่น ซึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานของการสืบสานอุดมการณ์ในการเข้ายึดอำนาจรัฐได้อย่างทรงพลัง ทั้งยังสามารถจัดตั้งเป็นกลุ่มเยาวชนเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเป็นกองกำลังขนาดเล็กปฏิบัติการต่อเป้าหมายกองกำลังของรัฐในพื้นที่ได้อีกด้วย

ยุทธศาสตร์แยกกันเดิน ร่วมกันตียังดำเนินการควบคู่ไปกับการต่อสู้เพื่อเอาชนะรัฐจากกลุ่มผู้นำศาสนาทั้งที่เป็นสมาชิกและแนวร่วมขบวนการร้ายแห่งนี้ โดยแสดงออกด้วยพฤติกรรมอันแยบยลที่มีการกล่าวอ้างว่าขอวางตัวเป็นกลาง หรือไม่สนใจเข้าร่วมในกระบวนการแก้ไขปัญหาไฟใต้ หากแต่ในทางลับกลับมีพฤติการณ์ปลุกระดม บ่มเพาะ ปลูกฝัง เกลี้ยกล่อม หลอกล่อ ชี้นำ ล้างสมอง กดดันให้เยาวชนเข้าร่วมเป็นสมาชิกขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานี ทั้งยังมีพฤติกรรมปฏิบัติการข่าวสารด้วยการโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อลดความชอบธรรมในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐ โดยเน้นว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในดินแดนแห่งนี้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ และคนในพื้นที่รวมทั้งกลุ่มขบวนการต่อสู้ของพวกเขามีความชอบธรรมในการต่อสู้เพื่อเอกราชที่มีแต่เดิมของพวกเขาและเป็นของคนในพื้นที่ให้กลับคืนมาสู่ชาวปาตานีให้จงได้

ควบคู่กับการแยกกันเดินแต่ร่วมกันตีจากกลุ่มการเมืองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปีกการเมืองของขบวนการต่อสู้กับรัฐแห่งนี้ โดยกลุ่มการเมืองเหล่านี้จะขับเคลื่อนการต่อสู้กับรัฐในระดับชาติ อาทิ การระงับยับยั้งงบประมาณของรัฐที่ใช้ในการแก้ปัญหาของหน่วยงานในพื้นที่ผ่านรัฐสภา การกดดันให้มีการยกเลิกกฎหมายพิเศษอันเป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งของเจ้าหน้าที่รัฐในการบังคับใช้กฎหมายอย่างชอบธรรม การกดดันให้มีการยกเลิกการตั้งด่าน ปิดประกาศหมายจับ และถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่โดยมอบให้คนในพื้นที่ติดอาวุธเพื่อดูแลกันเองอันเป็นการเข้าทางขบวนการร้ายแห่งนี้ในการมีเอกราชเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์ และเมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐเกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ กลุ่มการเมืองที่เป็นสมาชิกและแนวร่วมขบวนการเหล่านี้จะกดดันให้หน่วยงานรัฐชี้แจง โต้แย้ง ลงโทษ หรือให้ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่ในทางกลับกันหากฝ่ายกองโจรปฏิบัติการร้ายทำลายชีวิตผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ มักวางเฉยไม่แสดงออกหรือเข้ามาแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ควบคู่กับการร่วมกันตีจากกลุ่มข้าราชการที่เป็นแนวร่วมกลุ่มขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐสู่เอกราชปาตานีที่ใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อเข้าสู่เส้นทางผู้บริหารในทุกส่วนราชการ ด้วยกระบวนการใส่ร้ายป้ายสี รวมตัวชุมนุมขับไล่ ร้องเรียน กดดันให้ข้าราชการไทยพุทธที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการย้ายออกจากพื้นที่ในทุกวิถีทางแม้กระทั่งการมุ่งทำร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อเปิดทางให้กลุ่มแนวร่วมขบวนการของตนเข้ามาทำหน้าที่แทนด้วยเหตุผลว่าเป็นคนมุสลิมและมีความเข้าใจวัฒนธรรมของคนมุสลิมในพื้นที่ดีกว่า และกลุ่มข้าราชการเหล่านี้ก็จะให้การสนับสนุนขบวนการต่อสู้แย่งชิงอำนาจรัฐแห่งนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ทั้งในที่แจ้งและในทางลับอย่างแยบยล

ควบคู่กับการร่วมกันตีจากครูสอนศาสนาแนวร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อแกราชปาตานีในพื้นที่ในโรงเรียนตาดีกา โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา สถาบันศึกษาปอเนาะบางแห่ง โดยทำหน้าที่เป็นฝ่ายผลิตสมาชิกขบวนการร้ายรุ่นใหม่เข้าสู่ขบวนการแย่งยึดอำนาจรัฐ โดยให้สมาชิกระดับแกนนำที่แฝงตัวในสถานศึกษา ปลุกระดม บ่มเพาะ ชักชวน โน้มนำเพื่อจัดหาและสร้างสมาชิกขบวนการต่อสู้เพื่อเอกราชปาตานีรุ่นใหม่สืบทอดอุดมการณ์ของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาขนาดใหญ่บางแห่งในพื้นที่สู้รบ และต่อยอดสู่การสานต่อ หล่อเลี้ยง เติมเต็มแนวคิดปรปักษ์กับรัฐในสถาบันอุดมศึกษาอย่างเข้มข้น นับเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การแยกกันเดิน ร่วมกันตีที่ทรงลังจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเอกราชตานีที่พวกเขาถวิลหา