รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
อีกวันที่สำคัญของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต “16 กันยายน 2568” ที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์วงการอุดมศึกษาไทย คือ งานระดมทุนเพื่อสนับสนุน “สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” จัดขึ้นภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เข้มข้น ซับซ้อน และยากต่อการคาดเดา คำกล่าวเปิดงานโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัจจุบันที่สถาบันอุดมศึกษาต้องเผชิญทั้งการแข่งขันที่รุนแรง ความคาดหวังของสังคมที่สูงขึ้น และความจำเป็นที่มหาวิทยาลัยต้องแสวงหาหนทางใหม่เพื่อความอยู่รอดและการพัฒนา และความภาคภูมิใจของสวนดุสิตที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ผ่านวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำของรองศาสตราจารย์ ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ผู้หล่อหลอมแนวคิด “Small but Smart” หรือ “จิ๋วแต่แจ๋ว” ที่เป็นต้นแบบยึดคุณภาพเหนือปริมาณ และสร้างความโดดเด่นด้านความเป็นเลิศเฉพาะทาง แนวคิดนี้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยและยังกลายเป็นองค์ความรู้ที่มีคุณค่าสำหรับการยกระดับอุดมศึกษาไทย
ในโอกาสนี้ ดร.ถนอม อินทรกำเนิด นายกสภามหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้แสดง ‘วิสัยทัศน์เพื่อสถาบันศิโรจน์ผลพันธิน’ ที่สะท้อนถึงความท้าทายและทิศทางของสถาบัน โดยสถาบันศิโรจน์ผลพันธินควรมุ่งยืนหยัดบนความอยู่รอด (Survival) และความยั่งยืน (Sustainability) พร้อมเปิดรับความร่วมมือไร้พรมแดน สร้างนวัตกรรมเชิงคุณภาพ ร่วมมือกับภาคส่วนอื่น ๆ ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ดำเนินงานบนหลักธรรมาภิบาล เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็น พลังร่วมที่จะทำให้สถาบันเป็นศูนย์กลางแห่งองค์ความรู้และการพัฒนา
สำหรับหัวใจสำคัญของงานครั้งนี้อยู่ที่ปาฐกถาศิโรจน์ผลพันธิน ครั้งที่ 2 เรื่อง “ตัวตน…คนอยากเติบโต” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่พาผู้ฟังไปสำรวจคำถามที่ว่า “อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งอยากเติบโต” คำถามนี้ดูเรียบง่าย แต่กลับสะท้อนถึงแก่นการแสวงหาความหมายในชีวิต โดยชี้ให้เห็นว่า “ตัวตน” ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อ ตำแหน่ง หรือสถานะ แต่คือการรู้จักตัวเองทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน รู้คุณค่าที่ตนยึดถือ และเข้าใจเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต เมื่อ “ตัวตน” แข็งแรง ความอยากเติบโตจะไม่ใช่แค่ความทะเยอทะยาน แต่คือแรงผลักให้ต้องพัฒนาตนเอง ขยายความรู้ ความสามารถ และที่สำคัญคือสร้างผลกระทบที่ดีให้แก่ผู้อื่นและสังคมโดยรอบ
นอกจากนี้ เส้นทางแห่งการเติบโตแบ่งออกได้เป็นสองมิติที่เกื้อหนุนกัน มิติแรกคือการเติบโตภายใน เป็นการฝึกสติและการรู้จักตัวเอง การสร้างวินัยและความรับผิดชอบ รวมทั้งการพัฒนาทัศนคติเชิงบวก ส่วนอีกมิติหนึ่งคือการเติบโตภายนอก ที่ปรากฏผ่านการเรียนรู้ทักษะใหม่ การขยายเครือข่าย และการกล้ารับผิดชอบโครงการใหญ่ที่ท้าทายกว่าเดิม ทั้งสองมิตินี้เปรียบเสมือนรากและกิ่งก้านของต้นไม้ รากยิ่งลึก กิ่งก้านก็ยิ่งขยายไปไกล และทั้งหมดนี้คือหนทางของ “คนอยากเติบโต”
อย่างไรก็ดี เส้นทางการเติบโตไม่เคยง่าย ๆ หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ อุปสรรคที่คอยขวางกั้นมาในรูปของความกลัว ความสบาย และความสำเร็จเดิม ๆ ความกลัวทำให้ไม่กล้าก้าวออกจากกรอบ ความสบายทำให้ติดอยู่ในพื้นที่ที่คุ้นเคย และความสำเร็จเดิม ๆ อาจกลายเป็นกับดักที่ทำให้หลงคิดว่าไปถึงที่สุดแล้ว ทั้งที่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายหนทางรอการค้นพบ นอกจากนี้ การยอมรับความล้มเหลวนับเป็นก้าวแรกของการเติบโต ผู้นำที่แท้จริงต้องกล้าที่จะเปิดพื้นที่ให้ทีมของตนได้ลองผิดลองถูก เพราะทุกความล้มเหลวคือบทเรียนที่สร้างความแข็งแรงจากภายใน
แล้วเราจะสร้าง “ตัวตนคนอยากเติบโต” ได้อย่างไร? คำตอบคือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน การเรียนรู้ตลอดชีวิต การสร้างคุณค่าที่แท้จริง และการปลูกฝังวัฒนธรรมการเติบโตในทีม เมื่อเลือกกำหนดทิศทางชีวิตอย่างมีวิสัยทัศน์ ไม่หยุดเรียนรู้ สิ่งใหม่ ลงมือทำสิ่งที่มีความหมาย และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ทุกคนก้าวหน้าไปพร้อมกันก็จะกลายเป็น “คนอยากเติบโต”
งานครั้งนี้ยังได้ยกย่องแบบอย่างสำคัญของการเป็น “ตัวตนคนอยากเติบโต” ของรองศาสตราจารย์ ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ผู้บริหารที่รักองค์กร กล้าหาญ กตัญญู ทุ่มเท มีสุนทรียะและความประณีต สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนรอบ รับฟัง คิดนอกกรอบ สร้างคน และมีความเมตตาที่อบอุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้ชื่อของรองศาสตราจารย์ ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน ได้รับจารึกไว้ในฐานะ “ตำนาน” ของการศึกษาไทย และยังเป็นพลังใจให้แก่ผู้ที่ปรารถนาจะก้าวเดินตามเส้นทางแห่งการเติบโต
งานวันที่ 16 กันยายน 2568 นี้ ไม่ใช่เพียงกิจกรรมระดมทุนเท่านั้น!!! แต่เป็นเวทีที่ทำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนทบทวนตัวตน (Identity) ของตนเอง ซึมซับแนวคิดเรื่องการเติบโตที่แท้ และพบแรงบันดาลใจจากบุคคลที่เป็นแบบอย่างแห่ง การพัฒนา ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ฝากร่องรอยลึกซึ้งไว้ในความทรงจำ และย้ำเตือนว่าการเติบโตไม่เคยสิ้นสุด ตราบใดที่คนเรายังมีหัวใจที่อยากเรียนรู้ อยากสร้างคุณค่า และอยากเห็นผู้อื่นเติบโตไปพร้อม กันครับ