แอสเซทไวส์

“แอสเซทไวส์” ท็อปฟอร์มไม่หยุด ผลงานโดดเด่นคว้า 3 รางวัล จาก 3 โครงการคอนโดมิเนียม บนเวที Asia Pacific Property Awards 2024 งานประกาศรางวัลอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากโครงการโครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง, แอทโมซ พอร์ทเทรต ศรีสมานและ โครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช ตั้งเป้ามุ่งมั่นส่งมอบโครงการคุณภาพเพื่อความสุขในการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง

นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนา ออกแบบและสร้างสรรค์โครงการ ภายใต้แนวคิดของ “We Build Happiness” เพื่อให้ทุกโครงการสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าทุกคน ตั้งแต่การค้นหาทำเลที่ตั้ง แนวคิดการออกแบบโครงการ ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ด้านภูมิสถาปัตย์ รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย และการพัฒนาโครงการในด้านต่าง ๆ ด้วยแนวคิดความยั่งยืน โดยในวันนี้แอสเซทไวส์ ประสบความสำเร็จอีกขั้น กับการคว้า 3 รางวัล จากเวที Asia Pacific Property Awards 2024 ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับโลกร่วมตัดสิน โดยรางวัลที่แอสเซทไวส์ได้รับในครั้งนี้ ประกอบด้วย

1.รางวัล Best Residential High Rise Development Thailand จากโครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งแรก และแห่งเดียวบนย่านรามคำแหง ภายใต้แนวคิด SYNCHRONIZE YOUR LIVING ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย โครงการตั้งอยู่ใจกลางรถไฟฟ้า MRT สถานีรามคำแหง ตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง และสนามราชมังคลากีฬาสถาน มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง 3 ชั้น เติมเต็มทุกความต้องการด้วยไลฟ์สไตล์มอลล์ในโครงการด้วย Mingle Mall  พร้อมนวัตกรรมการที่อยู่อาศัย Smart Living สะดวกสบายทุกการอยู่อาศัย

2.รางวัล Award Winner : Residential Interior Show Home Thailand จากโครงการแอทโมซ พอร์ทเทรต ศรีสมาน คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่สไตล์รีสอร์ท โดดเด่นด้วยการดีไซน์แบบโมเดิร์นอิตาเลียน ซึ่งได้รับแรงบันดาลจาก "LAKE COMO" ประเทศอิตาลี ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นประตู, หน้าต่าง และผนังที่เป็นทรงโค้งสวยงาม (Arch) มาพร้อมสีสันสดใสตัดกับสายน้ำและท้องฟ้าสีครามท่ามกลางธรรมชาติบนพื้นที่โครงการกว่า 5 ไร่ ใกล้สนามบินดอนเมือง ตรงข้ามโรบินสันศรีสมาน

3.รางวัล Award Winner :  Residential Development Thailand จากโครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ทสำหรับคนเมือง ที่พร้อมมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สงบ เป็นส่วนตัว ด้วยโอเอซิสกลางเมืองขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ และฟังก์ชันการใช้งานเต็มรูปแบบ ทั้ง Passive & Active มาพร้อมการออกแบบอาคารในสไตล์ Modern Elegant ที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์น เรียบง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความสง่างาม และหรูหรา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลาง ที่ตอบโจทย์ทุกโหมดของชีวิตให้กับผู้พักอาศัยได้อย่างแท้จริง เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าสถานีศรีนุช

“เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ความภูมิใจ และเป็นกำลังใจสำคัญให้ทีมงานแอสเซทไวส์ทุกคน โดยทั้ง 3 รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพเพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทุกคนอย่างไม่หยุดนิ่ง” นางสาวพชร กล่าว

“แอสเซทไวส์” เดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ผนึกพันธมิตร “ทาคาระ เลเบ็น” ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำจากญี่ปุ่น สานต่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผุดโปรเจ็กต์ร่วมทุนลำดับที่ 4 “โมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม” (Modiz Vault Kaset - Sripratum) ไลฟ์สไตล์คอนโดแห่งใหม่ Pet Friendly ติดรั้วม.เกษตร ใกล้ ม.ศรีปทุม มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ใน Q1/2569 หลังจากร่วมทุน 3 โครงการก่อนหน้ากระแสตอบรับดี มั่นใจตลาดอสังหาฯไทยโตต่อเนื่อง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทฯ คือการผนึกพันธมิตรที่มีศักยภาพ ในการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยที่ผ่านมาบริษัท ฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 100 % และพร้อมเข้าอยู่เป็นที่เรียบร้อย
               

โดยล่าสุดแอสเซทไวส์ ได้เดินหน้าร่วมทุนกับทางกลุ่มทาคาระ เลเบ็น เพื่อพัฒนาโครงการ โมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท  โดยทาคาระ เลเบ็น ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมมือกันด้วยดีเสมอมา ซึ่งนับเป็นการลงทุนโครงการที่ 4 โดยแอสเซทไวส์ถือหุ้นสัดส่วน 51% และกลุ่มทาคาระ เลเบ็น ถือหุ้นในสัดส่วน 49%  โดยโครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม มีจุดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ –มหาวิทยาลัยศรีปทุม ติดถนนตัดใหม่พหลโยธิน - วิภาวดี ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว แหล่งงาน และ ตอบโจทย์ทุกความสมดุลในทุกด้านของการใช้ชีวิต และยังมีอาคารที่เป็นโซน Pet Friendly ที่รองรับกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันโครงการผ่าน EIA approved เรียบร้อยแล้ว กำลังดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/2569” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
           

นายคาซูอิชิ ชิมาดะ (Kazuichi Shimada) CEO บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด กล่าวว่า กลุ่มทาคาระ เลเบ็น มองเห็นโอกาสการลงทุนเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทยที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของพันธมิตรทางธุรกิจอย่างแอสเซทไวส์ ที่พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์และเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด จึงเดินหน้าร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าชาวไทย และขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติ พร้อมสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งร่วมกันต่อไป ซึ่งกลุ่มทาคาระ เลเบ็นมั่นใจว่าโครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร - ศรีปทุม จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ประสบความสำเร็จด้วยดีอย่างแน่นอน

สำหรับโครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร – ศรีปทุม เป็นไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมจำนวน 2 อาคาร ประกอบด้วยอาคารไฮไรส์สูง 21 ชั้น และอาคารโลว์ไรส์ซึ่งเป็นอาคาร Pet Friendly สูง 7 ชั้น  มีจำนวนทั้งหมด 798 ยูนิต แบ่งเป็นที่พักอาศัย 787 ยูนิต และร้านค้า 11 ร้าน บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยโครงการตั้งอยู่บนไพร์มโลเคชั่น ติดถนนถนนตัดใหม่พหลโยธิน-วิภาวดี ที่สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น รถโดยสารส่วนตัว เพราะใกล้ทางยกระดับอุตราภิมุข เพียง 5 นาที และที่สำคัญยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีบางบัว ซึ่งสามารถเดินทางต่อเดียวสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย พร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ อาทิ สถาบันการศึกษาชั้นนำต่าง ๆ โดยติดรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใกล้มหาวิทยาลัยศรีปทุม และโรงเรียนหอวัง รวมถึงยังใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว, เมเจอร์ รัชโยธิน,  ยูเนี่ยน มอลล์, แหล่งงานมากมายจากภาครัฐและเอกชน, โรงพยาบาลเปาโล เกษตร และโรงพยาบาลวิภาวดี ฯ

โดยโครงการออกแบบภายใต้แนวคิด Timeless Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Classical Element โดดเด่นด้วยการดีไซน์ของเส้นโค้ง (Vault) ที่ให้เกิดความสมดุลและสุนทรียภาพของพื้นที่ โดยรูปแบบห้องพักประกอบไปด้วย แบบ Simplex ขนาดตั้งแต่ 22-35.50 ตร.ม. และแบบ Vertical Suite ขนาดตั้งแต่ 22.60 - 34.40 ตร.ม. ที่มีเพดานสูงโปร่งโล่ง รองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบห้องแบบ 2 ชั้น มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานที่เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถตอบโจทย์คนได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน นักลงทุน และนักศึกษา รวมทั้งกลุ่มคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียม

ขณะที่อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของโครงการ คือพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกสุด Exclusive ที่จัดเต็มที่สุดในย่านมากถึง 60 กิจกรรม เพื่อตอบโจทย์ทุกโหมดของการใช้ชีวิตทั้ง Live, Work, Learn, Relax และ Shopping และ Work อาทิ Sunrise pool และ Sunset pool สระว่ายน้ำ 2 สระที่เปิดรับวิว 360 องศา, Co-working ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง, Oxygen room, Moonlight lounge, Shopping Street ที่มีร้านค้ามากถึง 11 ร้าน นอกจากนี้ยังมีส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยง อาทิ Pet Wash Station, Pet Play Yard, Pet Playhouse รวมถึง EV Charging Station และรถ Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการไปยังมหาวิทยาลัย และสถานีรถไฟฟ้า BTS เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านมากขึ้น ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.49 ล้านบาท

“แอสเซทไวส์” เตรียมอวดโฉมแบรนด์ KAVE แคมปัสคอนโดขวัญใจคนรุ่นใหม่ 3 โปรเจ็กต์ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2/2567 รวมมูลค่าโครงการ 5,070 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใกล้มหาวิทยาลัยทั้งในกรุงเทพฯ และ EEC กับโครงการเคฟ ซี้ด เกษตร,โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ และโครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน ชู 3 จุดเด่นทั้งทำเล ส่วนกลางสุดอลัง และให้ผลตอบแทนสูง 8-10%  หลังได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากกลุ่มลูกค้าอยู่จริงและกลุ่มนักลงทุน พร้อมได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ มั่นใจช่วยดันยอดโอนคอนโดฯทั้งปีเป็นไปตามเป้า

นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความสำเร็จของแบรนด์เคฟ (KAVE) อีกหนึ่งแบรนด์เรือธงของแอสเซทไวส์ ว่า ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ของแบรนด์เคฟ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเคฟ ซี้ด เกษตร, โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ และโครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 5,070 ล้านบาท ซึ่ง 3 โครงการดังกล่าวได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเตรียมต้อนรับผู้ซื้อเข้าอยู่อาศัยแล้ว โดยแบรนด์ KAVE ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า โดยมี Key Success 3 ประการคือ 1.ทำเลที่ตั้ง ซึ่งตั้งอยู่ในไพร์มโลเคชั่น มีความสะดวกสบายในการเดินทาง 2.การพัฒนาโครงการ ได้รับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของแบรนด์ KAVE ที่สำคัญอย่างยิ่งคือมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาในแต่ละย่านนั้นๆ และ 3.สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับกลุ่มนักลงทุนที่ปล่อยเช่าได้ในอัตราสูงถึง 8-10% ถือว่าคุ้มค่าจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน

“แบรนด์ KAVE เป็นแคมปัสคอนโด ที่ตอบโจทย์ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และลงทุนเพื่อปล่อยเช่า จาก Key Success ที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่โครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสบรรยากาศโครงการจริง โดยขณะนี้มีสัญญาณบวกจากลูกค้า ที่ตอบรับนัดหมายเข้าตรวจรับห้องชุดในเฟสแรกแล้ว ประกอบกับในช่วงนี้ยังมีแรงหนุนจากมาตรการอสังหาฯ ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง มาเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยเชื่อว่าจะสามารถทำยอดโอนคอนโดทั้งปีของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายวางไว้ได้อย่างแน่นอน” นางสาวพชร กล่าว
               

สำหรับ โครงการเคฟ ซี้ด เกษตร เป็นแคมปัสคอนโดมิเนียมใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "Grow Your Verse" ที่สื่อถึงการเติบโตและงอกงามในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ เป็นแหล่งรวมความสุขและสนุก บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 600 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ตั้งอยู่ทำเลซอยพหลโยธิน 34 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อเมืองได้สะดวกสบาย ตกแต่งครบครัน Fully Furnished มีห้องหลากหลายแบบให้เลือกตั้งแต่ขนาด 22.10 – 47.10 ตร.ม. มาพร้อมส่วนกลางโดดเด่นที่จัดเต็ม และพิเศษยิ่งกว่าเดิมกว่า 30 รายการ เพื่อรองรับทุกไลฟ์สไตล์สุดซี้ดของคนรุ่นใหม่ ในราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท* โดยเปิดให้สัมผัสชีวิตสุดซี้ดกับวิวจริง ตึกจริงแล้วตั้งแต่วันนี้
               

โครงการ “เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์” เป็นแคมปัสคอนโดเฟสสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดในบิ๊กโปรเจกต์ KAVE TOWN ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มหึมาคลื่นความสุข บน Funtastic Island” บนพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ สูง 8 ชั้น 7 อาคาร จำนวน 1,777 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ใกล้ ม.กรุงเทพ รังสิต ประกอบด้วยห้องพักตั้งแต่ขนาด 22.20-46.10 ตร.ม. โดดเด่นด้วยดีไซน์ส่วนกลางเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งเป็น 2 โซนได้แก่ โซน Andaman Beach และโซน Caribbean Island ที่มาพร้อมมหึมาคลื่นความสุขตลอด 365 วัน กับพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุดถึง 50 กิจกรรม ทั้ง indoor และ outdoor และมีส่วนกลางคอร์ทขนาดใหญ่ รวมถึงด้านหน้าโครงการยังมี Mingle Mall คอมมูนิตี้มอลล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อตอบโจทย์และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของคน Gen Z ในราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท เตรียมเปิดให้เข้าชม ในเดือนพฤษภาคม 67 นี้
               

สุดท้ายกับ โครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน แคมปัสคอนฯ มิติใหม่ของการอยู่อาศัยแบบมัลติเวิร์ส บนพื้นที่โครงการกว่า 13 ไร่ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร  เป็นสังคมส่วนตัวเพียง 245 ยูนิต มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนบางแสนสาย 4 ห่างจากม.บูรพา เพียง 200 เมตร มาพร้อมห้องพักตั้งแต่ขนาด 23 – 25 ตร.ม. อลังการกับการออกแบบดีไซน์ที่ตกแต่งให้เสมือนอยู่ในโลกเหนือจินตนาการ เชื่อมโยงกับพื้นที่สีเขียวภายนอกให้สอดคล้องกันกับพื้นที่คลับเฮ้าส์ จำนวน 3 ชั้น สุดล้ำกว่า 26 กิจกรรม* พร้อมพื้นที่สร้างสรรค์กิจกรรมในโซน outdoor แห่งเดียวในบางแสน เพื่อไลฟ์สไตล์คุณภาพชีวิตของ Gen Z ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท  เปิดชมตึกจริงแล้ววันนี้
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th, โทร. 02-168-0000 หรือ Line: @assetwise

‘แอสเซทไวส์’ ยกทัพคอนโดมิเนียมคุณภาพหลากทำเลกว่า 20 โครงการ ทั้งพร้อมอยู่ และโปรเจกต์ใหม่  จัดแคมเปญเด็ดต้อนรับซัมเมอร์เอาใจลูกค้าคนรุ่นใหม่สายท่องเที่ยว กับ “AssetWise เปย์ใจ ไป Japan” จองและทำสัญญา รับทันทีแบบไม่ต้องลุ้นกับแพ็คเกจบินลัดฟ้าเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 4 วัน 3 คืน* พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ และส่วนลดแบบปังๆ สูงสุดถึง 1 ล้านบาท* ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 67 เท่านั้น

นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่นอกจากทำเล และรูปแบบโครงการที่สวยงามตรงใจลูกค้าแล้ว ยังต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีความหลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้นอีกด้วย โดยแอสเซทไวส์ได้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ที่เข้าใจอินไซต์และไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของลูกค้าในหลากหลายมิติ เรามีทั้งคอนโดฯติดแนวรถไฟฟ้า, รีสอร์ทคอนโดฯ รวมถึงแคมปัสคอนโดฯ บนทำเลศักยภาพทั้งโซนกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมไปถึงพื้นที่ EEC โดยทุกโครงการยังคำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ซึ่งจุดเด่นของคอนโดมิเนียมของแอสเซทไวส์คือการมอบสิ่งความอำนวยความสะดวกในโครงการที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในทุกเจน เป็นเพื่อรองรับการทำกิจกรรมทั้ง Live Play Work ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง DNA สำคัญของแอสเซทไวส์

โดยล่าสุด บริษัทได้จัดแคมเปญต้อนรับซัมเมอร์ สำหรับลูกค้าที่จองคอนโดมิเนียม  "AssetWise เปย์ใจ ไป Japan"  โดยมอบข้อเสนอสุดพิเศษแบบจัดเต็มให้กับลูกค้าของแอสเซทไวส์ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 1 ล้านบาท, อยู่ฟรี นานสูงสุด 3 ปี, กู้เต็มร้อย, เฟอร์นิเจอร์ครบ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนฯ พร้อมรับแพ็กเกจเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 4 วัน 3 คืน รวมตั๋วเครื่องบินไป – กลับ และที่พัก สำหรับ 2 ท่าน แบบไม่ต้องลุ้น (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) เฉพาะลูกค้าที่สนใจจองและทำสัญญา ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2567 และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดภายใน 31 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น” นางสาวพชร กล่าว

สำหรับโครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ "AssetWise เปย์ใจ ไป Japan" แบ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ จำนวน 17 โครงการ ได้แก่ โครงการโมดิซ สุขุมวิท 50, โครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง, โครงการเคฟ เอวา, โครงการแอทโมซ คาแนล รังสิต, โครงการแอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง, โครงการแอทโมซ พอร์เทรต ศรีสมาน, โครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช, โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71, โครงการไอเวอรี่ รัชดา ลาดพร้าว, โครงการบราวน์ คอนโด พหลฯ 67, โครงการโมดิซ อินเตอร์เชนจ์, โครงการเคฟ ซี้ด เกษตร, โครงการแอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, โครงการแม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร, โครงการโมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ, โครงการเคฟ มิวแทนท์ ศาลายา และโครงการแอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี รวมถึงโครงการพรีเซล จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน, โครงการโมดิซ วอลท์ เกษตร – ศรีปทุม, โครงการเคฟ เอ็มบริโอ รังสิต, โครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง, โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน, โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา และโครงการโมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์

ทั้งนี้พบกับโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพทั้งโครงการพร้อมอยู่และโครงการพรีเซล จากแอสเซทไวส์ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษได้แล้ววันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น สามารถเยี่ยมชมโครงการ และลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ พร้อมดูเงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th 

“แอสเซทไวส์” จับมือ “Bottomless” ร้านกาแฟ Specialty ที่มีโรงคั่วกาแฟลำดับต้นๆ ของเมืองไทย เปิดคาเฟ่ Bottomless สาขาใหม่ล่าสุดลำดับที่ 6 ที่โครงการ “มารูน รัชดา 32” (Maroon Ratchada 32) ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “RED IS MORE ใช้ชีวิต...ให้มากกว่า” โดดเด่นด้วยดีไซน์ INDUSTRIAL GRAM เสมือนยกโรงละครในมหานครนิวยอร์คมาไว้บนรัชดา 32 ที่พร้อมมอบประสบการณ์ในการชมห้องตัวอย่างสุดเก๋ พร้อมท่องโลกไปกับกาแฟพรีเมี่ยมจาก Bottomless เตรียมเปิดจองครั้งแรกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้

คุณพชร ประพันธ์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเข้าใจและเล็งเห็นถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้มุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย ล่าสุดได้ร่วมกับร้าน Bottomless เปิดสาขาแห่งใหม่ที่โครงการมารูน รัชดา 32 เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการดื่มกาแฟ ซึ่งร้าน Bottomless เป็นร้านกาแฟ Specialty แถวหน้าของไทยที่มีการนำเข้าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีจากทั่วโลกที่เบลนด์ออกมาเป็นรสชาติที่ให้มิติ และมีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเหมือนโครงการมารูน รัชดา 32 ถือความร่วมมือของ 2 แบรนด์ที่มุ่งมั่นคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดนั่นเอง

“ทำเลซอยรัชดา 32 แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลทอง เนื่องจากแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่พักอาศัย สำนักงาน และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ  จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ เป็นจุดนัดพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือเป็นแหล่งรังสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ประกอบกับปัจจุบัน คนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการ Cafe Hopping มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น สายกาแฟ หรือสายถ่ายภาพ ถ่ายคอนเท้นต์ตามร้านคาเฟ่ชิคๆ ซึ่งการร่วมมือกันร้าน Bottomless ในครั้งนี้ ยังถือเป็นการเปิดจุดเช็กอินแห่งใหม่ใจกลางรัชดา 32 เพื่อเชิญชวนทั้งคนรักกาแฟ และคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใจกลางย่านรัชดาได้มาท่องโลกความพิเศษ โดยทาง Bottomless ได้รังสรรค์เมนูซิกเนเจอร์ “Maroon”  ซึ่งเป็นกาแฟ Cold Brew คั่วอ่อน ทานง่าย ราดด้วยรังผึ้งหวานหอม กับซอสราสเบอร์รี่ ชินนาม่อนไซรัป และ Sparking  รสชาติหวานหอมละมุนสดชื่น  ที่มีเฉพาะสาขาโครงการมารูน รัชดา 32 นี้เท่านั้น เรามั่นใจว่า ลูกค้าที่มาเช็คอิน จะได้ลิ้มรสกาแฟที่ตรงใจและเพลิดเพลินไปกับการชมห้องตัวอย่าง ที่สามารถถ่ายภาพสวยๆ ภายใน Sales Gallery สุดชิคของโครงการมารูน รัชดา 32 อย่างแน่นอน” คุณพชรกล่าว

สำหรับ โครงการมารูน รัชดา 32 เป็นไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ RED IS MORE ใช้ชีวิต...ให้มากกว่า” จำนวน 353 ยูนิต ห้องพักอาศัยขนาดเริ่มต้น 22.90-31.90 มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ตัวอาคารออกแบบสไตล์ Modern Industrial โดยนำโครงสร้าง Truss สะพานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาครนิวยอร์ค มาเป็นดีไซน์ของตัวอาคาร มีกลิ่นอายของความคลาสสิคและผสานความโมเดิร์นด้วยสีแดงมารูน ให้ความรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังครบครันด้วยพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริง ซึ่งกระจายอยู่ทุกชั้นของทั้ง 2 อาคารอาทิ Scarlet pool & Red pool deck ที่อยู่ระหว่างอาคาร A และ B มาพร้อม Ruby Jacuzzi และ Secret Pool Lounge พร้อมเปิดรับมุมมองด้วย Over Flow Pool Edge ที่ทำให้รู้สึกเย็นสบาย เหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศ และยังมีสวนคอร์ทยาร์ด และ Co - Working Space พื้นที่เพื่อพบปะ และทำกิจกรรมต่างๆ เปรียบเหมือน Green Carpet พรมสีเขียวขนาดใหญ่ ให้ความเป็นธรรมชาติ เป็นส่วนตัวในแบบ Natural Retreat เป็นต้น

โดยโครงการอยู่บนทำเลศักยภาพที่ดินผืนสุดท้ายของรัชดา 32  สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนได้หลากหลายเส้นทางทั้ง รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว และพหลโยธิน รวมถึงใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน,รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และรถไฟฟ้าสายสีเขียว อีกทั้งยังใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย โดยโครงการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบของการใช้ชีวิตเจนใหม่ พร้อมเพลิดเพลินกับการดำรงชีวิตที่ครบครันซึ่งรวมอยู่ไว้ในที่เดียว เพื่อเป็นที่แห่งการสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจสำหรับการใช้ชีวิตในทุกวันของคุณ

ทั้งนี้พบข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Early Bird วันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2567 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท* ลงทะเบียนรับลดสูงสุดกว่า 300,000 บาท* ได้ที่ https://bit.ly/48L8X7L หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.assetwise.co.th, โทร. 02-168-0000 หรือ Line: @assetwise

ภูเก็ตสุดคึกคักรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดันปีทองอสังหาภูเก็ตเติบโตก้าวกระโดด “แอสเซทไวส์” เสริมแกร่งพอร์ตอสังหาฯ ผนึกโบทานิก้า รุกตลาดลักชัวรี่เมกะโปรเจ็กต์หมื่นล้าน

โค้งสุดท้ายของปี 2566 บรรยากาศการท่องเที่ยวภูเก็ตสุดคึกคัก ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังพุ่งไม่หยุด ดันดีมานด์อสังหาภูเก็ตฯ ผู้ประกอบการเร่งเปิดโครงการใหม่รับโอกาสขาขึ้น ด้านแอสเซทไวส์ไม่รอช้า ขยายพอร์ตตลาดลักชัวรี่เข้าถือหุ้นโบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BGA) ผ่านร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) บริษัทในเครือ  30%   ร่วมพัฒนาเมกะโปรเจ็กต์ “โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว” (BOTANICA Grand Avenue) พูลวิลล่าและคอนโดลักชัวรีตากอากาศโครงการที่ใหญ่ที่สุดจังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการ 13,000 ล้านบาท บนทำเลใจกลางย่าน Exclusive Residence ลากูน่า ภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นอีกหนึ่ง World Class Tourist Destination ที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆปี ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อพักผ่อนทั้งระยะสั้น ระยะยาว เพื่อปล่อยเช่า และลงทุน ส่งผลให้ภูเก็ตเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจหัวเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยในปีนี้มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทจากหลายผู้ประกอบการมากที่สุด  หนึ่งในเซ็กเมนต์ที่น่าสนใจคือที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ที่จับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งนิยมมาใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ภูเก็ต

โดยโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ของภูเก็ตที่น่าจับตามองล่าสุดคือ โครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว พัฒนาโดย บริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด หรือ BGA ผู้นำโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ในจังหวัดภูเก็ต  ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านพักพูลวิลล่า 2 ชั้น และคอนโดตากอากาศที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต ด้วยมูลค่าโครงการที่สูงถึง 13,000 ล้านบาท ที่ทางโครงการมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ให้เป็น New Luxury Innovation Community แห่งใหม่ของภูเก็ต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 178 ไร่ จำนวนบ้านพักและห้องชุดพักอาศัย 400 ยูนิต ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติบนพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ถึง 5,000 ตารางเมตร แบบ Open space ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเหนือระดับ พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาบริหารจัดการการอยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติอย่างยั่งยืน และช่วยลดปริมาณคาร์บอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Unraveling the Epitome of Innovation Luxury Living ที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่สร้างคุณค่าหรูหราเหนือระดับของผู้อยู่อาศัย

ด้านบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่ได้รุกตลาดที่อยู่อาศัยภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า  “แอสเซทไวส์ มองเห็นโอกาสในการเข้าขยายธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตในระยะยาว เพราะเราเชื่อมั่นในศักยภาพของภูเก็ตที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต จึงได้ขยายฐานตลาดอสังหาริมทรัพย์ไปในจังหวัดภูเก็ต ผ่านการเข้าลงทุนในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ตที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี โดยบริษัทได้ปิดดีลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบรนด์ THE TITLE พัฒนาอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม ปัจจุบันพัฒนาโครงการมาแล้วรวม 7 โครงการ มูลค่า 10,500 ล้านบาท  

ขณะที่ในส่วนของการรุกตลาดลักชัวรี่และโครงการแนวราบนั้น ปัจจุบันแอสเซทไวส์ได้เข้าถือหุ้น 30% ในบริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด หรือ BGA ผ่านร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ โดยล่าสุดได้ร่วมลงทุนพัฒนา โครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว (BOTANICA Grand Avenue) ที่เป็นเมกะโปรเจ็คต์ มูลค่าสูงถึง 13,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการรุกตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตเพื่อเติมเต็มพอร์ตอสังหาฯ ของแอสเซทไวส์ที่เป็นผู้นำอสังหาฯ ในกรุงเทพและปริมณฑล  ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นทั้งแนวสูงและแนวราบ เพราะ BOTANICA นั้นเป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการพูลวิลล่าในระดับลักชัวรีที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี  ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของแอสเซทไวส์ได้ในอนาคต 

อสังหาภูเก็ตยังฮอตต่อเนื่อง “แอสเซทไวส์” ส่งโครงการ “The Title Legendary Bang-Tao” (เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา) คอนโดหรูใจกลางหาดบางเทา ภายใต้แนวคิด “A LUXURIOUS LIFE IN THE HEART OF BANG-TAO”  เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์  มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท เจาะตลาดลูกค้าชาวต่างชาติ พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างต้นเดือน ธ.ค.66 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ภูเก็ตเป็น World Destination ทั้งในด้านของการท่องเที่ยว และยังเป็นตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวทั้งระยะสั้น หรืออยู่อาศัยในระยะยาว เนื่องจากมีหาดทรายที่สวยงามติดอันดับโลก มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และกิจกรรมเพื่อการพักผ่อน จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางมาสัมผัส ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ทำให้ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตทุกพื้นที่คึกคักอย่างต่อเนื่อง  

ทั้งนี้บริษัทจึงได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่  “The Title Legendary Bang-Tao” (เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา) มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ในทำเลศักยภาพด้านการท่องเที่ยวหาดบางเทา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สำคัญของภูเก็ต เนื่องจากเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รายล้อมด้วยโรงแรมหรู บีชคลับ แหล่งแฮงค์เอาท์ สนามกอล์ฟ ลากูน่า นอกจากนี้ยังมีหาดทรายที่ขาวละเอียดทอดยาวถึง 6 กม. จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อน โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด  “A LUXURIOUS LIFE IN THE HEART OF BANG-TAO” เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมเต็มรูปแบบ  ตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยรวมทั้งเพื่อการลงทุนอีกด้วย  โดยในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาได้เปิดขายเฟสแรกให้กับกลุ่มเอเจนท์ไปแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 70% จึงเชื่อมั่นว่าอสังหาฯ ภูเก็ตยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แอสเซทไวส์ และร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จึงมีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอีกหลายพื้นที่ของภูเก็ต”

The Title Legendary Bang-Tao เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น บนพื้นที่ 15 ไร่ จำนวน 9 อาคาร  ประกอบไปด้วยห้องพัก 637 ยูนิต ตัวอาคารออกแบบในดีไซน์ “Modern Luxury”  ที่ผสานความร่วมสมัยแบบเหนือกาลเวลา  ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมทั้งตัวอาคารและการตกแต่งภายใน  ห้องพักมีให้เลือกถึง 8 รูปแบบ ขนาดเริ่มต้น 31 – 94 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยสระน้ำรายล้อมโครงการ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมที่ให้มากกว่า 35 รายการ ท่ามกลางบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติ บนทำเลใกล้ชายหาดบางเทาเพียง 500 เมตรเท่านั้น ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า และไลฟ์สไตล์มอลล์  อย่าง Porto de Phuket ที่อยู่ใกล้เพียง 700 เมตร และ Boat Avenue Phuket เพียง 800 เมตร ในราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท

“The Title” เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูเก็ตที่พัฒนามาแล้วกว่า 6 โครงการ บนพื้นที่ชายหาดในยางและราไวย์ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วทุกโครงการ ซึ่งปัจจัยความสำเร็จมาจากงานก่อสร้างที่มีคุณภาพ และการบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ ผนวกกับแอสเซทไวส์เป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ Facility ที่มีความหลากหลาย และให้มากกว่าโครงการในระดับเดียวกัน ทำให้กลุ่มลูกค้าไว้วางใจซื้อลงทุนโครงการ The Title อย่างต่อเนื่อง” นายกรมเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย

#อสังหาภูเก็ต #แอสเซทไวส์ #คอนโด 

“แอสเซทไวส์” ส่งโครงการ “โมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์” ไลฟ์สไตล์คอนโดระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ เจาะทำเลทองย่านศรีนครินทร์ บนสุดยอดทำเลติดแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เชื่อมต่อ Triple Interchange ที่แยกลำสาลี และแอร์พอร์ตลิ้งค์ หัวหมาก มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท ยืนหนึ่งวิวจัดเต็มแบบ 360 องศา ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากถึง 4 ชั้น ตอบโจทย์คนเมืองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดตัวห้องชุดแบบใหม่ Business Units เอาใจเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม เพียงหนึ่งเดียวในย่านที่จดทะเบียนธุรกิจได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท เปิดชมห้องตัวอย่างครั้งแรกในวันที่ 28 ต.ค.นี้ 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ย่านศรีนครินทร์ถือเป็นอีกหนึ่งโซนที่อยู่อาศัยที่สำคัญของฝั่งกรุงเทพตะวันออก เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย ประกอบกับการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้วอย่างเต็มรูปแบบ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้เพิ่มขึ้น บริษัทจึงพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ "โมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์” (Modiz Voyage Srinakarin) ภายใต้แนวคิด "The Never Ending Journey ที่นี่..สุขได้ทุกการเดินทางของชีวิต 

โครงการโมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์ เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ สูง 37 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 813 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ โดดเด่นด้วยดีไซน์เปิดรับวิวที่จัดเต็มแบบ 360 องศา โดยรูปแบบห้องชุดประกอบไปด้วย โซน Resident Unit สำหรับพักอาศัย ซึ่งมีทั้งแบบ Simplex ขนาดตั้งแต่ 23.40 – 34.60 ตร.ม. จุดเด่นคือหน้ากว้างถึง 7.8 เมตร ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย มีช่องแสงขนาดใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติ และสามารถถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี  แบบ Vertical Suite ขนาดตั้งแต่ 24.80 - 34.80 ตร.ม. ที่มีเพดานสูงถึง 4.7 เมตร รองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชอบห้อง 2 ชั้น และโซน Business Unit  พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 24.5 – 35 ตร.ม. โดยมีเพดานสูง 2.9 ม.

สำหรับห้อง Simplex และสูงถึง 5.8 เมตร สำหรับห้อง Vertical Suite มีลิฟท์โดยสารและล็อบบี้แยก เพื่อความเป็นสัดส่วน และสะดวกสบาย สำหรับผู้พักอาศัย และเจ้าของธุรกิจที่ปรับเป็นมินิออฟฟิศ มาพร้อมการเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกตารางนิ้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการ อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกสุด Exclusive ที่จัดเต็มให้มากถึง 4 ชั้น เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยทุกเจนเนอเรชั่น ในราคาเริ่มต้น เพียง 1.99 ล้านบาท*  

สำหรับโครงการฯ อยู่ติดถนนศรีนครินทร์ที่สามารถเดินทางเข้า–ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารส่วนตัว ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช เพียง 5 นาที และที่สำคัญยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีกรีฑา 300 เมตร พร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการอาทิ แหล่งช้อปปิ้ง เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ,  โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ สถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆอาทิ ร.ร.นานาชาติเวลลิงตัน,ร.ร.เตรียมอุดมพัฒนาการ,ม.อัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) เป็นต้น ทั้งนี้โครงการ “โมดิซ โวยาจ ศรีนครินทร์” จะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป พร้อมรับเครื่องดื่ม Welcome Drink จาก Black Winter Café ที่ X กับโครงการ อีกมิติใหม่ของ คาเฟ่ในสำนักงานขาย ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.assetwise.co.th 

#แอสเซทไวส์ #โมดิซโวยาจศรีนครินทร์ #รถไฟฟ้าสายสีเหลือง

“แอสเซทไวส์” เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Atmozphere” สร้างการรับรู้ต่อเนื่องให้กับแบรนด์ “แอทโมซ” (ATMOZ) คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Daily Atmosphere” พร้อมดึง 2 นางงาม มานิตา     ดวงคำ ฟาร์เมอร์ นางสาวไทยประจำปี 2565 และแอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ร่วมถ่ายทอดความสุข ออนแอร์แล้ววันนี้ทางยูทูบ และเฟซบุ๊กแอสเซทไวส์  พร้อมทยอยส่งมอบแอทโมซสร้างเสร็จ 6 โครงการ มูลค่ารวม 9,650 ล้านบาท 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า ปัจจุบันแอสเซทไวส์พัฒนาโครงการคอนมิเนียม ภายใต้ 3 แบรนด์หลัก อย่าง เคฟ (KAVE),โมดิซ (MODIZ) และแอทโมซ (ATMOZ) โดยแบรนด์แอทโมซถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ของแอสเซทไวส์ ที่ประสบความสำเร็จในตลาดคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ Brand Essence หรือตัวตนของแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์สไตล์รีสอร์ท คอนโด ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงาน และคนเมืองที่มีไลฟ์สไตล์นอกบ้านที่วุ่นวาย ที่ต้องการการพักผ่อนและเติมเต็มความสุขในทุกวัน เสมือนได้เติม Daily Endorphin ทุกครั้งเมื่อกลับถึงโครงการ  

ทั้งนี้มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยครบคพรันในทุกด้าน พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย จากแนวคิดในการพัฒนาโครงการดังกล่าว ทำให้คอนโดมิเนียมแบรนด์แอมโมซได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด จนปัจจุบันมีโครงการภายใต้แบรนด์แอทโมซแล้วกว่า 11 โครงการ       ซึ่งกระจายอยู่ในหลากหลายทำเล ทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด อาทิ ลาดพร้าว, รัชดา – ห้วยขวาง, อ่อนนุช - บางนา,     แจ้งวัฒนะ, มีนบุรี, รังสิต, ศรีราชา และระยอง เป็นต้น 

ขณะเดียวกันเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์แอทโมซอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้มีการสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ของแอทโมซอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในชื่อชุด “Atmozphere” เพื่อถ่ายทอดแบรนด์คอนเซ็ปต์ Daily Atmosphere ผ่านการอยู่อาศัยในโครงการที่ทำให้บรรยากาศเปรียบเสมือนเวทมนต์วิเศษ ที่จะช่วยเปลี่ยนความเหนื่อยล้า ให้เป็นความรู้สึกดีมีพลังบวกเมื่อได้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมแอทโมซในทุกๆวัน ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่เติมไปด้วยพื้นที่สีเขียวซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยเสริมสร้างไอเดียใหม่ ๆ จากพื้นที่กิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายในโครงการ โดยมี 2 สาวนางงาม ‘มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์’ นางสาวไทยประจำปี 2565 และ ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022  มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความสุขในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้

นอกจากนี้ในปี 2566 แอสเซทไวส์ได้ทยอยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมแอทโมซโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ แอทโมซ ทรอปิคาน่า บางนา, แอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, แอทโมซ พอร์ตเทรต ศรีสมาน, แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช, แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี และแอทโมซ คาแนล รังสิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,650  ล้านบาท  โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าทั้ง 6 โครงการใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าดังเช่นที่ผ่านมา และจะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

โดยรับชมภาพยนตร์โฆษณา “Atmozphere” ได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทาง YouTube https://bit.ly/46ntBJO และ FB : AssetWise

“แอสเซทไวส์” แรงไม่หยุด คว้า 2 รางวัลใหญ่  “Developer of the Year 2023” จากเวที Dot Property Thailand Awards 2023 สาขาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย และรางวัล Best Investment ประเภท Condo จากโครงการโมดิซ ลอนช์ (Modiz Launch) จากเวที Living Insider Awards 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำ ที่มีการพัฒนาโครงการที่โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพเพื่อส่งมอบความสุขอย่างไม่หยุดนิ่ง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าถึง 2 รางวัล จากเวทีที่ได้รับการยอมรับในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไทย ถือเป็นการการันตีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ซึ่งการได้รับรางวัลในครั้งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ภาคภูมิใจของแอสเซทไวส์ ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการผู้ตัดสินรางวัล รวมถึงลูกค้าที่ไว้วางใจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกครอบครัวแอสเซทไวส์ 

สำหรับรางวัลแรกคือ รางวัล “Developer of the Year 2023” จากเวที Dot Property Thailand Awards 2023 ในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น การคัดเลือกทำเลศักยภาพ, การออกแบบที่โดดเด่นอย่างเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการดีไซน์ฟังก์ชันใช้สอยที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยเห็นได้ผลงานในรอบปีที่โดดเด่น ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทฯ ได้เปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา  ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการเปิดขายหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Kave Town Island หรือ Modiz Avantgarde รวมถึงการขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต เพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละเซกเมนต์มากยิ่งขึ้น และด้วยผลงานที่โดดเด่นเหล่านี้ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

นอกจากนี้ โครงการ โมดิซ ลอนช์ ของบริษัทฯ ยังได้รับรางวัล Best Investment ประเภทคอนโดมิเนียมจากเวที Living Insider Awards 2023 ที่จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ  โดยโครงการโมดิซ ลอนช์ เป็นคอนโดไฮไรส์ที่โดดเด่นบนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางไลฟ์สไตล์ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อม Triple Facilities ขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์ถึง 40 กิจกรรม โดยสามารถสร้างปรากฎการณ์ Sold out ภายในวันแรกที่เปิดขาย และเมื่อเสร็จสมบูรณ์ก็ได้ต้อนรับผู้พักอาศัยเต็ม 100% ด้วย Capital Gain และ Rental Yield ที่สูงเป็นประวัติการณ์  ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่แอสเซทไวส์มั่นใจในศักยภาพ ด้วยคุณภาพโครงการและทำเลบนพื้นที่ Rare Item ที่มีดีมานด์สูงใจกลางไลฟ์สไตล์ธรรมศาสตร์ ทำให้ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง นักลงทุน ผู้เช่า ทำให้เราสามารถคว้ารางวัลจากเวทีแห่งนี้ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่หยุดนิ่งในการที่จะพัฒนาทั้งโครงการที่มีคุณภาพ, การออกแบบ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อส่งมอบความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย สู่การเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาชั้นนำด้านไลฟ์สไตล์ที่สามารถครองใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน" นายกรมเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย