3 กลุ่มเปราะบาง เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เงินเข้าเดือนธันวาคมได้กี่บาท-วันไหน เช็คที่นี่!

3 กลุ่มเปราะบาง เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เงินเข้าเดือนธันวาคมได้กี่บาท-วันไหน เช็คที่นี่!

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนจะโอนให้ก่อนในวันเวลาราชการ ซึ่งในงวดเดือนธันวาคม 2567 จะได้รับโอนเงินในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800-1000 บาท  

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนธันวาคม 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการจะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนธันวาคม

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่านว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไปจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

เช็คที่นี่ 3 กลุ่มเปราะบาง เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เงินเข้าเดือนธันวาคมได้กี่บาท

เช็คที่นี่ 3 กลุ่มเปราะบางเด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เงินเข้าเดือนธันวาคมได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนจะโอนให้ก่อนในวันเวลาราชการ ซึ่งในงวดเดือนธันวาคม 2567 จะได้รับโอนเงินในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800-1000 บาท  

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนธันวาคม 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการจะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

 

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนธันวาคม

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่านว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุดกำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

เงินเข้าบัญชีแล้ว 3 กลุ่มเปราะบางเดือนพฤศจิกายน เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ งวดนี้ได้กี่บาท

เงินเข้าบัญชีแล้ว 3 กลุ่มเปราะบางเดือนพฤศจิกายน เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ งวดนี้ได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนจะโอนให้ก่อนในวันเวลาราชการ ซึ่งในงวดเดือนพฤศจิกายน 2567 จะได้รับโอนเงินในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท  

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนพฤศจิกายน 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการจะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

 

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนพฤศจิกายน

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่านว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุดกำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

 

มีเงินเข้าพรุ่งนี้(8พ.ย.) 3 กลุ่มเปราะบาง เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เช็คเลยงวดนี้ได้กี่บาท

มีเงินเข้าพรุ่งนี้(8พ.ย.) 3 กลุ่มเปราะบาง เด็กแรกเกิด-ผู้สูงอายุ-ผู้พิการ เช็คเลยงวดนี้ได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนจะโอนให้ก่อนในวันเวลาราชการ ซึ่งในงวดเดือนพฤศจิกายน 2567 จะได้รับโอนเงินในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท 

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนพฤศจิกายน 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการจะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

 

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนพฤศจิกายน

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่านว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุดกำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

กลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม เงินเข้า 8 พ.ย.67 เช็คเลยงวดนี้ได้กี่บาท

กลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม เงินเข้า 8 พ.ย.67 เช็คเลยงวดนี้ได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนจะโอนให้ก่อนในวันเวลาราชการ ซึ่งในงวดเดือนพฤศจิกายน 2567 จะได้รับโอนเงินในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท 

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนพฤศจิกายน 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการจะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนพฤศจิกายน

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่านว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุดกำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.67 ในเดือน พ.ย.67 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงวัยเดือนละ 600-1,000 บาทตามช่วงอายุ เช็คเงื่อนไขที่นี่ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รับเดือนละ 600-1,000 บาท เช็คเงื่อนไขที่นี่ต้องเตรียมอะไรบ้าง

เบี้ยผู้สูงอายุ ประจำปี 2569 เปิดลงทะเบียนรอบใหม่แล้ว โดยผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี แต่ยังไม่เคยได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่กำลังจะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509 สามารถไปลงทะเบียนได้แล้ว

คุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

1.สัญชาติไทย

2.มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.2509

3.ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่

– ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษหรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน

– ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

– ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา

 

การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุคือ

– อายุ 60 – 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท

– อายุ 70-79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท

– อายุ 80-89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท

– อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท

 

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

-สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

-สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม 

-หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

-สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

-สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

 

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

#กลุ่มเปราะบาง #สยามรัฐ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐออนไลน์ 

 

 

 

 

 

 

 

 

เช็คเลย! 10 ตุลาคม มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง งวดนี้ได้กี่บาท

เช็คเลย! 10 ตุลาคม มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง งวดนี้ได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในงวดเดือนตุลาคม 2567 จะได้รับโอนเงินในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท 

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนตุลาคม 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนตุลาคม 2567

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่าน ว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุด กำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.66 ในเดือน พ.ย.66 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม คือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือ เทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐวันนี้ #เบี้ยผู้สูงอายุเดือนตุลาคม2567

 

 

รอเลย 10 กันยายน มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กเลยงวดนี้ได้กี่บาท

รอเลย 10 กันยายน มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กเลยงวดนี้ได้กี่บาท

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในงวดเดือนกันยายน 2567 จะได้รับโอนเงินในวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท 

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนกันยายน 2567 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันอังคารที่ 10 กันยานยน 2567 ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนกันยายน 2567

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่าน ว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุด กำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.66 ในเดือน พ.ย.66 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม คือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือ เทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐวันนี้

 

 

รอเลย! พรุ่งนี้ 10 พฤษภาคม มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กเลยงวดนี้ได้กี่บาท

รอเลย! พรุ่งนี้ 10 พฤษภาคม มีเงินเข้าบัญชี 3 กลุ่มเปราะบาง เช็กเลยงวดนี้ได้กี่บาท

จากกรณีมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่มได้แก่ เด็กแรกเกิด,ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยจะโอนเงินทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในงวดเดือนพฤษภาคม 2567 จะได้รับโอนเงินในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 โดยเด็กเล็กจะได้รับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 -1000 บาท ขณะที่ผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 -1000 บาท

 

กลุ่มที่ 1 เงินอุดหนุนบุตร เด็กแรกเกิดถึงอายุ 6 ขวบได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 600 บาท

เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท เดือนพฤษภาคม 2567 กรมบัญชีกลาง จะได้โอนเงินอุดหนุนบุตรเข้าบัญชีผู้มีสิทธิในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุด

ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตรเดือนพฤษภาคม 2567

-หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
-หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
-หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่าน ว่าใช้งานได้หรือไม่

ตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง 

-เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน 
-แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" 
-แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" 

สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้

-กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต

-เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

-ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

-ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก" ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ทั้งนี้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08-2091-7245,08-2037-9767,08-3431-3533,06-5731-3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

กลุ่มที่ 2 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

-อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

-อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

-อายุ 90 ปี ขึ้นไปได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้หลังจากกระทรวงมหาดไทยมีการปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 ส.ค.66 จากเดิมการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะไม่มีการปรับเบี้ยระหว่างปีงบประมาณ แต่ระเบียบใหม่ล่าสุด กำหนดให้ปรับอัตราจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตามมติคณะรัฐมนตรี ณ เดือนที่ผู้สูงอายุมีอายุครบช่วงอายุในเดือนถัดไปเช่น ในระหว่างปีงบประมาณ ผู้สูงอายุมีอายุครบ 70,80 หรือ 90 ปี ในเดือนถัดไปก็จะได้รับการปรับค่าเบี้ยขึ้นทันทีตามขั้นบันได เช่น อายุครบ 70 ปี เดือน ต.ค.66 ในเดือน พ.ย.66 จะได้ปรับเป็น 700 บาททันที ไม่ต้องรอปีงบประมาณใหม่ ส่วนผู้สูงอายุคนใดที่เกิดวันที่ 1 ในเดือนที่ครบอายุจะได้รับในเดือนนั้นทันที

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ 

1.มีสัญชาติไทย
2.มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3.มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4.เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด

ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิ

ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ในปีนั้นๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย.-1 ต.ค.ของปีนั้นๆจึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1.กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

 

2.กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม คือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน 

-จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

-กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

-อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือ เทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

กลุ่มที่ 3 เบี้ยผู้พิการ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ

-ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

-ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้พิการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เลขที่ 255 อาคาร 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 ติดต่อ 1479 หรือ โทร. 0-2354-3388 ต่อ 311 หรือ 313

 

#กลุ่มเปราะบาง #เงินเข้าบัญชี #ผู้พิการ #เบี้ยคนชรา #เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ #เงินอุดหนุนบุตร #เบี้ยผู้สูงอายุ #ข่าววันนี้ #สยามรัฐวันนี้

 

"เทพไท"ฝาก"ทักษิณ"แนะรัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

วันที่ 14 เม.ย.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เทพไท-คุยการเมือง ระบุว่า  

ทักษิณ รับตำแหน่ง คชร.เงินเดือน700บาท
ฝากแนะนำรัฐบาลเพิ่มเบี้ยยังชีพด้วย

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังถูกถามจะรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯหรือไม่ ซึ่งคุณทักษิณตอบว่า "ตอนนี้ผมมีตำแหน่งแล้ว อยู่ในฐานะ 700 บาท เป็นคนชราดีกว่า” ซึ่งดูเหมือนคนทักษิณจะตอบแบบถ่มตน ไม่อยากให้เป็นประเด็นไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาลคุณเศรษฐา แต่เมื่อคุณทักษิณเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นคนชรา (คชร.)แล้ว เแสดงว่าคุณทักษิณได้ให้ความสำคัญของโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งเกิดขึ้นในยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย ปี2535 กำหนดให้ได้รับคนละ 200 บาท หมู่บ้านละ5คน และเพิ่มเป็นคนละ 300 บาทต่อเดือน เมื่อปี 2542

ในสมัยของรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ไม่มีการปรับปรุงเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเลย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนเงิน หรือยอดคนเข้าร่วมโครงการ ช่วงเกิดรัฐประหาร พ.ศ. 2549 รัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้ปรับจำนวนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 500 บาทต่อเดือน

จนถึงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีการประกาศจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุถ้วนหน้า คนละ 500 บาทให้กับผู้มีอายุ60ปีขึ้นไปทุกคน  นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่มีรัฐบาลชุดใดกล้ายกเลิก หรือตัดสิทธิ์ของผู้สูงอายุอีกเลย

ต่อมาในสมัยรัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรับเบี้ยยังชีพเป็นขั้นบันไดตามช่วงอายุ คือ หากมีอายุ 60 ปี ได้รับ 600 บาท อายุ 70 ปี ได้รับ 700 บาท อายุ 80 ปี ได้รับ 800 บาท และเมื่ออายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท และเกณฑ์การมอบเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุตามช่วงอายุนี้ ยังคงใช้มาจนถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และสืบเนื่องมาถึงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ยังคงใช้อัตราค่าเบี้ยผู้สูงอายุเหมือนเดิม 

โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เกิดจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้คือนายชวน หลีกภัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนถึงปัจจุบันพรรคการเมืองทุกพรรค ใช้โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหาเสียง โดยประกาศเป็นนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพขึ้นเป็นเดือนละ 2000 บาทบ้าง 3000 บาทบ้าง 5000 บาทบ้าง แต่ในที่สุดไม่มีพรรคการเมืองใดได้เพิ่มเบี้ยยังชีพขึ้นตามที่หาเสียงไว้ ยังคงใช้อัตราค่าเบี้ยยังชีพปัจจุบันอยู่

เมื่อคุณทักษิณประกาศว่า รับตำแหน่งเป็นคนชรามีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 700 บาทแล้ว ขอแสดงว่าคุณทักษิณได้เห็นความสำคัญกับโครงการนี้แล้ว ทั้งที่เป็นรัฐบาลมา5ปี ไม่เคยเห็นความสำคัญเลย มาคิดได้ตอนที่ตัวเองเข้าสู่วัยชราแล้ว  อยากให้นึกถึงหัวอกผู้สูงอายุ โดยเฉพาะคนในชนบท ที่ไม่มีรายได้อื่นใดเลี้ยงชีพ นอกจากเบี้ยผู้สูงอายุเท่านั้น

ฝากให้คุณทักษิณแนะนำรัฐบาลให้เพิ่มค่าเบี้ยยังชีพกับผู้สูงอายุ ที่มี 11.7ล้านคน ดีกว่านำเงินดิจิทัลวอลเล็ตไปแจกคน50ล้านคน