"สรรพสามิต" จับน้ำมันดีเซลเถื่อน 200,000 ลิตร ที่จ.สมุทรสาคร ปรับกว่า 5 ล้าน

ดร. นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สมุทรสาครได้ทำการจับกุมน้ำมันที่มิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 200,000 ลิตร มูลค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 5,440,000 บาท ได้ที่สะพานปลาจังหวัดสมุทรสาคร ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยผลการจับกุมพบผู้ต้องหาจำนวน 3 รายมีของกลางเป็นน้ำมันดีเซล จำนวน 200,000 ลิตร มูลค่าของกลาง 5,988,000 บาท คิดเป็นประมาณการค่าภาษี 1,088,000 บาท และประมาณการค่าปรับ 5,440,000 บาท

ดร. นิตยา กล่าวว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการยกระดับการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ในทุกรูปแบบตามนโยบายของดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิด ซึ่งกรมฯ ได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกทั้งการเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์การนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับการดำเนินงานต่าง ๆ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือทั้งกับหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอก ตามหนึ่งในกลยุทธ์ ตรงเป้า ตรงกลุ่ม ตรงใจ ของกรมสรรพสามิต เพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ไม่ได้รับสินค้าปลอมซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพ และเพื่อให้กรมสรรพสามิตเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ภาพใหญ่ของกรมฯ ที่วางไว้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน

หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th

สมุทรสาคร "โหวตเลือก ปธ.สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯปี 67 เป็นหญิงคนแรก”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านครัวข้าวหอม ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครนำโดย ดร.อภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ (อดีต) ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้จัดการประชุมสมัยสามัญ ประจำปี 2567 เพื่อเลือกตั้งเฟ้นหาผู้มาดำรงตำแหน่งประธานฯ “คนใหม่” โดยมี ดร.สุรชัย โสตถีวรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคกลาง และนายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับเกียรติมาเปิดงาน ในวาระประจำปี เพื่อมาแทน ดร.อภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ (อดีตประธานสภาฯ) คนเก่า ที่อยู่ครบวาระลงไปตามกฎระเบียบและข้อบังคับทางสภา


“ทั้งนี้ปรากฏว่า ผลการประชุมในการเฟ้นหาตำแหน่งประธานฯคนใหม่ ได้มีการเสนอรายชื่อ ดร.อัจฉรีย์ งามพร้อมสกุล (ซึ่งเป็น ปธ.กรรมการบริหาร บจก.โอ.เอ็ม.แคนแอนด์พริ้นติ้ง) เพื่อให้เข้ามานั่งตำแหน่งนี้ โดยมีวาระช่วงปี 2567-2569 ทั้งนี้โดยทางเหล่าสมาชิกสภา ต่างมีมติเห็นชอบด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์ ให้นั่งอี้ขึ้นเป็นประธานผู้หญิง (คนแรกของสภาอุตสาหกรรม) ในระหว่างปี 2567 -2569”


ดร.อัจฉรีย์ งามพร้อมสกุล (ประธานรายใหม่) เผยว่า จากนี้ไปตนจะตั้งใจทำหน้าที่พัฒนาองค์กรให้ดีที่สุดโดยร่วมกันคิดทำงานการพัฒนาองค์กรดังกล่าวของจังหวัดสมุทรสาครให้ดีขึ้น อาทิเช่น ขับเคลื่อนงานในพัฒนาสภาฯเพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าสู่เป้าอุตสาหกรรมหมายตามที่ทุกคนไว้วาง ซึ่งเรื่องแรกก็คือ ผลักดันให้เกิดการรวมตัวและสร้างสายเลือดคนรุ่นใหม่ด้วยเพื่อให้เข้าสู่การเป็น “Young FTI สมุทรสาคร” ที่จะเชื่อมโยงการทำงานกันระหว่างกลุ่มคนรุ่นเก่า กับคนกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนหรือรุ่นสู่รุ่น โดยมีหลักการที่สำคัญ เช่น การสร้างอุตสาหกรรมสะอาด และอุตสาหกรรมที่ใส่ใจสังคมของจังหวัดสมุทรสาคร 

"สมุทรสาคร" เปิดศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช ดูแลรักษาผู้ป่วยเต็มรูปแบบ

 

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2567 ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร นายผล ดำธรรม ผวจ.สมุทรสาคร ในฐานะเป็นประธานฯได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทำพิธีเปิด "ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช (Soft Opening)" ประจำ จ.สมุทรสาคร โดยมี ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศ.คลินิก และ นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ รองคณบดีฝ่ายพับริการทางการแพทย์ฯ พร้อมด้วย นพ.สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมในพิธีเปิดอาคาร โดยมีนายกเทศมนตรีตำบลนาดี อ.เมืองฯ และคณะพยาบาล มาร่วมเปิดงานกันอย่างพร้อมเพรียง 

ซึ่งจากรายงานด้านคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุสำหรับอาคาร รพ.แห่งนี้ว่า ได้ดำเนินการก่อสร้างมาก่อนหน้าแล้ว เพื่อจัดโครงการศูนย์บริการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช ในหมู่ที่ 1 ต.นาดี อ.เมืองฯ ซึ่งได้รับการอนุมัติด้านงบประมาณแผ่นดิน ประจำปี 2563 โดยมีการวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.63 ตั้งอยู่พื้นที่ 25 ไร่ จากเงินที่ได้รับบริจาคจาก นายสัมพันธ์-นางวารุณี อยู่พูนทรัพย์ และได้รับเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์เพื่อทำโครงการรักษาและดูแลผู้ป่วยสำหรับผู้สูงวัย ก็คือ การส่งเสริมการผลิตบุคลากรทางสุขภาพในทุกสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ ตามผลผลิตงานการวิจัย และการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุให้ตรงตามหลักการทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ หรือ (Geriatric Medicine) 

"ทั้งนี้โดยใช้เวลาทำก่อสร้างมาอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลา 4 ปี อย่างไรก็ตามขณะนี้สามารถพร้อมเปิดให้บริการประชาชนในนาม “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” แบบ Soft Opening อาทิเช่น ในส่วนของอาคารผู้ป่วยใน 1 (อาคาร D) หรือ “ศูนย์บริการสุขภาพผู้สูงอายุศิริราช-สมุทรสาคร” โดยมีส่วนของการดูแลผู้ป่วย, ในส่วนรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั้วไป รวมทั้งส่วนของการบริการผู้ป่วยนอก และการให้บริการตรวจสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ให้บริการตรวจรักษาโรคแก่ผู้สูงอายุ และส่วนของการบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ที่เปิดให้บริการของหอผู้ป่วยผู้สูงอายุในระยะกลาง, ที่ให้บริการพื้นฟูและสร้างเสริมสมรรถนะหลังการผ่าตัดหลังการเจ็บป่วยรุนแรงต่อไป


พร้อมกันนี้ยังมีอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารสำคัญ ก็คือ อาคารศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ (อาคาร C) ที่ได้รับเงินบริจาคการก่อสร้างจากมูลนิธิสุขุโม ทั้งนี้ โดยจะเปิดบริกาอย่างรแบบเต็มรูปแบบ (Grand Opening) ประมาณในกลางปี 2567  ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ต่อไป"

ปภ.สมุทรสาคร "จับตาฝุ่นเสนอจังหวัดร่วมบูรณาการแก้ปัญหา PM2.5."รอบสัปดาห์  

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ร้อยตำรวจตรี สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ด้วยทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯสมุทรสาคร ได้ติดตามปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก โดยคาดว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯใน 7 วันข้างหน้า โดยกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งคาดว่าในระหว่าง 17 -19 ธันวาคม 2566 ค่าฝุ่นละอองจะเกินค่ามาตรฐานและอาจจะเริ่มมีผลต่อสุขภาพของประชาชน  โดยมีผู้ว่าราชกาจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ผู้ลงนามคำสั่งฯ  

หัวหน้า สนง.ปภ.จจังหวัดฯกล่าวว่า ด้วยปัญหาของฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 และผลกระทบต่อประขาชน ดังนั้นทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ได้พิจารณาแล้วเล็งเห็นว่าเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือแบบบูรณาการในปัญหาดังกล่าว อาทิเช่น ลดผลกระทบ, การสร้างความรับรู้ และแก้ปัญหาแหล่งกำเนิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้กับ ปชช.เป็นต้น ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวนี้ โดยมีผู้อำนวยการอำเภอ /ท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามแผนงานป้องกันปัญหาอย่างเคร่งครัด ในระหว่าง 7 วันข้างหน้าต่อไป 

“พร้อมกันนี้ได้ฝากประชาสัมพันธ์เพื่อการสร้างการรับรู้ อาทิ –แนะนำให้ประชาชน –งดออกกำลังกาย หรือหลีกเลี่ยงการทำงานกลางแจ้ง, งดทำกิจกรรมภายนอกของอาคารเรียน, ที่อยู่อาศัย และสถานที่ทำงาน รวมถึงสถานประกอบการ เป็นต้น เพื่อให้ปลอดจากฝุ่นละอองตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

สมุทรสาคร ยังคงมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐาน

 

 GISTDA เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคม 2566 พบว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานและเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีส้ม อยู่ที่ 47.1 ไมโครกรัม 

 ในขณะที่กรุงเทพมหานคร พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีส้ม 16 เขต สูงสุด 3 ลำดับอยู่ที่ บากกอกใหญ่ 55.8 ไมโครกรัม ตามด้วย ธนบุรี 49.9 ไมโครกรัม และหนองแขม 49.5 ไมโครกรัมตามลำดับ

 แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น"

ทน.สมุทรสาคร จัดพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 

 

 เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 11 ตุลาคม 2566 นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร พร้อมด้วย รองนายกเทศมนตรี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ ผู้อำนวยการสถานศึกษา และบุคลากรในสังกัดเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ตั้งเสาเอก – เสาโท  อาคารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนครสมุทรสาคร ณ บริเวณด้านหลังโรงเรียนเทศบาลวัดเจษฯ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร โดยได้นิมนต์พระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม (พระอารามหลวง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนิมนต์พระสงฆ์รวม 9 รูป สวดเจริญชัยมงคลคาถา   


นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการที่ได้ออกเยี่ยมประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลนครสมุทรสาคร ทำให้พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังอยู่ในเขตเทศบาลฯ เป็นจำนวนมาก การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ต้องได้รับการฟอกเลือด เพื่อที่จะนำของเสียออกจากเลือดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งสถานพยาบาลที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ประกอบกับปัจจุบันผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร มีจำนวนถึง 10,260 คน ทั้งนี้ทางเทศบาลนครสมุทรสาคร จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดสวัสดิการ การสงเคราะห์ผู้สูงอายุ และข้อจำกัดด้านสถานที่ให้บริการ จึงเป็นที่มาของนโยบายในการสร้างอาคารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเทศบาลนครสมุทรสาคร และ การส่งเสริมสร้างศูนย์ฟอกไตยกระดับการรักษาสู่มาตรฐานสากล เพื่อการเข้าถึงทางการแพทย์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเดินทาง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีเเละมีอายุยืนยาวให้เเก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร 
สำหรับอาคารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนครสมุทรสาคร ที่ดำเนินการก่อสร้างนี้ มีลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ขนาดความกว้าง 27.50 เมตร ความยาว 45 เมตร ดำเนินการก่อสร้างภายในปีงบประมาณ 2565 ใช้เงินรวม 29 ล้านบาท  ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ ร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมภายใต้หลักคิดที่ว่า ผู้สูงอายุเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นสถานที่ให้บริการและจุดศูนย์รวมในการแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ และพัฒนาคุณภาพผู้สูงอายุ ตามนโยบายได้ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน.

​​​​​​​

 

สมุทรสาคร “มอบเกียรติบัตรเรือประมงสีขาว ร่วมต่อต้านปัญหายาเสพติด”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองมหาชัย สมาคมการประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกับทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร จัดพิธีมอบเกียรติบัตรให้แก่บรรดาชาวเรือประมงในจังหวัดตาม "โครงการเรือประมงสีขาว" ภายใต้โครงการหลักป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง ประจำปี 2566 โดยมีคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง (โครงการเรือประมงสีขาว ) และชาวเรือประมงเข้าร่วมรับมอบใบเกียรติบัตรตามโครงการ

นางสาวสุวดี ทวีสุข สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร เผยว่า เนื่องด้วยทางคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง (โครงการเรือประมงสีขาว ) ที่ดำเนินการโครงการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเฝ้าระวัง ดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มแรงงานในเรือประมงได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี กรณีมีความปลอดภัยในการทำงานตามหลักเกณฑ์ที่ดำเนินการ จำนวน 8 ข้อ อาทิเช่น จัดทำโครงการนโยบายด้านยาเสพติด, จัดทำป้ายประกาศรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด, การแต่งตั้งบุคคลทำหน้าที่รับผิดชอบ, การให้ความรู้แก่แรงงานประมง, จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านปัญหายาเสพติด, ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ, และการสอดส่องดูแลพฤติกรรมแรงงานประมง กระทั่งผ่านการตรวจประเมินที่การดำเนินการได้ทั้ง 7 ข้อ

โดยนายกสมาคมการประมงฯ ระบุว่า การจัดโครงการนี้เป็นไปตามงบประมาณสนับสนุนประมงสีขาว ประจำปี 2566 จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 7. โดยมี 4 โครงการ ได้แก่ การดำเนินงานไปตามโครงการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง, การชี้แจงในหลักเกณฑ์การจัดการต่อด้านยาเสพติดในเรือและแรงงาน, การทำสื่อประชาสัมพันธ์โครงการเรือประมงสีขาว ทั้งนี้ ปรากฏว่า ผลการดำเนินการของปี 66 นี้ มีเรือประมงที่แจ้งความจำนงมาร่วมโครงการซึ่งสามารถผ่านการประเมินผลตามหลักเกณฑ์ได้ตามกำหนดดังดังกล่าว

ฟื้นคืนอะควาเรียมสมุทรสาคร แหล่งเรียนรู้พันธุ์สัตว์น้ำอัตลักษณ์ท้องถิ่น

 

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 15 กันยายน 2566 นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร  ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายกุณสมบัติ ศิริสมบัติ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร นายประหยัด ตะคอนรัมย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ อุปนายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร ดร.ปรีชา ศิริแสงอารำพี ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายอนุสรณ์ สุขรุ่งเรือง นายก อบต.โคกขาม นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้มีเกียรติ คณะครู และนักเรียน ที่เข้าร่วมในพิธีเปิดและเข้าชมสัตว์น้ำภายในศูนย์ฯ รอบปฐมฤกษ์กันเป็นจำนวนมาก

นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.  2565 หลังจากที่ปิดปรับปรุงมานานถึง 5 ปี โดยได้ดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร เพื่อพัฒนาศูนย์ดังกล่าวให้เป็นแหล่งเรียนรู้พันธุ์สัตว์น้ำที่มีคุณค่าและเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาคร และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จังหวัดสมุทรสาครได้บรรจุโครงการพัฒนาศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร ในแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เพื่อให้การบริหารงานศูนย์ฯ เป็นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จังหวัดสมุทรสาครมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร จากทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน เพื่อร่วมจัดทำแผน ให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำได้อย่างยั่งยืนต่อไป  

นายณรงค์ รักร้อย ผวจ.สมุทรสาคร ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า เพื่อให้ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาครแห่งนี้ เป็นแหล่งเรียนรู้พันธุ์สัตว์น้ำอัตลักษณ์ท้องถิ่นของจังหวัด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นจังหวัดสมุทรสาคร อันจะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และนำรายได้จากการ ท่องเที่ยวสู่พี่น้องประชาชนของชาวจังหวัดสมุทรสาคร ได้อย่างยั่งยืนนั้น ก็ขอให้ทุกฝ่ายบูรณาการความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับหาแนวทางเพื่อการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร ให้มีความยั่งยืนตลอดไป

โดยเชื่อได้ว่าหากศูนย์ฯ แห่งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจังนั้น จะทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาเข้าชมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด 

สำหรับ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสมุทรสาคร (Samut Sakhon Aquarium) ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร ในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปีงบประมาณ 2552 โดยใช้งบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ก่อสร้างศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร , ปีงบประมาณ 2553 ก่อสร้างที่จอดรถ ถนน ระบบไฟฟ้า ประปา , ปีงบประมาณ 2555 ปรับปรุงภูมิทัศน์ สร้างรูปปั้นวาฬบรูด้า สูง 17 เมตร และปีงบประมาณ 2561 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสมุทรสาครและสำนักงานประมงจังหวัด รวมเป็นงบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ก่อศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งสิ้น 97,082,200 บาท

จากนั้นได้เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2554 โดยระยะแรกเปิดให้เข้าชมฟรี ต่อมาได้ทำการปิดยุติการเข้าชม เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 กระทั่งทางจังหวัดสมุทรสาครได้จัดสรรงบประมาณ 2565 เพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร   โดยได้ดำเนินงานปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในศูนย์ฯ งานบ่อพ่อแม่พันธุ์ งานบ่อเต่าและระบบกรองน้ำ งานปรับปรุงบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ งานอาคารอเนกประสงค์ งานปรับปรุงลานจอดรถหน้าศูนย์ฯ งานขุดลอกบ่อเก็บน้ำ ปรับปรุงพื้นที่โดยรอบของศูนย์ฯ ภายใต้งบประมาณกว่า 19 ล้านบาท และพร้อมเปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2566 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้สำหรับศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquarium) สมุทรสาคร จะเปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ เวลา 10.00 น. - 17.00 น. หยุดทุกวันพุธ ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วย  อุโมงค์ปลา มีการจัดแสดงสัตว์น้ำในตู้กว่า 100 ชนิด เช่น ฉลามกบ, ปลาไหลมอเรย์, ปลาตะกรับลายบั้ง, ปลาผีเสื้อนกกระจิบ, กระเบนทองจุดฟ้า, ปลาเก๋ายักษ์, กะพงแดง, ปลาช่อนทะเล, ปลาการ์ตูนหลากหลายสายพันธุ์, ปลาสิงคโปร์แองเจิ้ล, ปลาบู่หน้าผี, ปลาหมอส้ม, ปลาใบมีดโกง บ่อพ่อแม่พันธุ์ และบ่อเต่า ส่วนจุดถ่ายรูป ก็เป็นรูปปั้นวาฬบรูด้า สูง 17 เมตร ที่ลายล้อมไปด้วยปลาการ์ตูน หรือปลานีโม่ ถือเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร .

สนง.ปภ.สมุทรสาคร"จับมือสถานประกอบการฯ จัดกิจกรรมอบรมรณรงค์” ขับขี่ปลอดภัย-เพิ่มวินัยจราจร

 

วันที่ 13 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริษัท ดีเอฟที (ประเทศไทย) จำกัด หมู่ 7 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะประธานพิธีเปิด "โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและนความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนฯ ภายใต้กิจกรรม "รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เพิ่มวินัยจราจร เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ในสถานประกอบการ ประจำปี 66 โดยมี ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร, นางสายเพชร จังกาจิตต์ สนง.ประชาสัมพันธ์จ.สมุทรสาคร และผู้แทนส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมในกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพรียง 

โดย ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้า สนง.ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับการจัดทำโครงการดังกล่าวนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งนอกจากนี้ทั้งยังมุ่งหวังเพื่อเพิ่มสัดส่วนของผู้สวมหมวกนิรภัยกันแบบต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก ก็คือ โรงเรียนหรือสถานศึกษา และสถานประกอบการ ให้มีการดำเนินงานส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างเข้มงวดต่อไป  โดยภายในงานมี มีการบรรยายให้ความรู้แก่พนักงานภายในสถานประกอบการ จำนวน 60 คน จากคณะวิทยากรของหน่วยงานต่างๆ มาร่วมรณรงค์และสนับสนุนให้มีการสวมใส่หมวกนิรภัยให้ได้ 100 % 

"โดยในกิจกรรมนี้ทาง บริษัท ดีเอฟที (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้มอบกันน็อค จำนวน 50 ใบ ให้กับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ เพื่อนำไปไว้ใช้ในงานสาธารณประโยชน์อีกด้วย"

​​​​​​​