5 วิธีเลือกพาวเวอร์แบงค์ (Powerbank) แบตสำรองคู่ใจ ให้ไม่พลาดทุกการใช้งาน

 

ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต การพกพาวเวอร์แบงค์ (Powerbank) ติดตัวไว้ก็เหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะไม่ว่าเราจะเดินทางไปทำงาน ไปเที่ยวคาเฟ่หรือออกทริปต่างจังหวัด หากที่แบตเตอรี่มือถือหมดกลางทางก็คงกลายเป็นฝันร้ายแน่ ๆ แต่จะเลือกซื้อแบตสำรองทั้งที ในตลาดก็มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด จนไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบไหนดี ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราจะมาแชร์ 5 ทริคง่าย ๆ ในการเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์คู่ใจให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน รับรองว่าอ่านจบแล้วเลือกได้แน่นอน!  

1. ความจุ (mAh)

 

สิ่งแรกที่ควรดูก่อนเลือกซื้อ Powerbank ก็คือเรื่องของความจุ หรือที่เรียกกันว่า mAh (มิลลิแอมป์-ชั่วโมง) นั่นเอง ควรเลือกความจุของพาวเวอร์แบงค์ให้มากกว่าความจุแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนเราอย่างน้อย 2 - 3 เท่า ตัวอย่างเช่น ถ้าแบตมือถือเรามีความจุ 5,000 mAh การเลือกพาวเวอร์แบงค์ขนาด 10,000 mAh ก็จะสามารถชาร์จมือถือของเราได้ประมาณ 1 - 2 รอบ หรือถ้าใครเป็นสายเดินทางบ่อย ๆ หรือมีอุปกรณ์หลายชิ้นที่ต้องชาร์จ การเลือกความจุ 20,000 mAh ขึ้นไปก็จะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานและสบายใจกว่า ไม่ต้องชาร์จแบตสำรองบ่อย ๆ  

2. จำนวนพอร์ตชาร์จ

นอกจากความจุแล้ว จำนวนพอร์ตชาร์จก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์หลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หูฟังไร้สายหรือสมาร์ทวอทช์ ดังนั้น หากเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ที่มีพอร์ตชาร์จหลาย ๆ แบบ เช่น USB-A หรือ USB-C ก็จะช่วยให้เราสามารถชาร์จอุปกรณ์หลาย ๆ เครื่องได้พร้อมกัน ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้น เดี๋ยวนี้ยังมีพาวเวอร์แบงค์มีสายในตัวออกมาวางขายด้วย ซึ่งสะดวกมาก ๆ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมพกสายชาร์จอีกต่อไป แค่ดึงสายออกมาก็เสียบชาร์จได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัวแบบสุด ๆ 

3. ความปลอดภัยและมาตรฐาน มอก.

 

พาวเวอร์แบงค์ที่ดีไม่ได้มีดีแค่ชาร์จไวหรือความจุเยอะ แต่ต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยด้วยเสมอ ควรเลือกซื้อแบตสำรองที่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพราะเป็นการการันตีว่า Powerbank นั้น ๆ ผ่านการทดสอบคุณภาพและมีความปลอดภัยในการใช้งานจริง นอกจากนี้ ควรมีระบบป้องกันต่าง ๆ เช่น ระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ระบบป้องกันการจ่ายไฟเกินและระบบป้องกันความร้อนสูงเกินไป เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อตัวผู้ใช้และอุปกรณ์ของเรา  

4. ขนาดและน้ำหนัก พกพาง่าย

 

แน่นอนว่าเราซื้อแบตสำรองมา เพื่อพกพาไปใช้นอกสถานที่ ดังนั้นขนาดและน้ำหนักจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง แต่พาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุสูง ๆ ในท้องตลาดก็มักจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากตามไปด้วย อาจจะไม่เหมาะกับการพกใส่กระเป๋าถือใบเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ลองถามตัวเองดูก่อนว่าไลฟ์สไตล์ของเราเป็นแบบไหน เพียงเท่านี้ก็ะจะช่วยให้คุณเลือกพาวเวอร์แบงค์ได้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น   

5. รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charge)

 

ในวันที่ทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา ฟีเจอร์ชาร์จเร็ว (Fast Charge) ถือเป็นอะไรที่จำเป็นมาก ๆ ลองเช็กดูว่าสมาร์ตโฟนของเรานั้นรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไหน เช่น Power Delivery (PD) หรือ Quick Charge (QC) แล้วเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ที่รองรับเทคโนโลยีเดียวกัน เพื่อให้สามารถจ่ายไฟได้เต็มประสิทธิภาพและย่นระยะเวลาในการชาร์จให้สั้นลงอีกด้วย  

เลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ที่ใช่และได้มาตรฐานได้ที่

การเลือกพาวเวอร์แบงค์ที่ดีและเหมาะสมกับการใช้งานไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เราพิจารณาจาก 5 ข้อหลัก ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นความจุที่พอเหมาะ จำนวนพอร์ตที่ตอบโจทย์ ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน มอก.ขนาดที่พกพาสะดวก และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ช่วยประหยัดเวลา เพียงเท่านี้คุณก็จะได้แบตสำรองคู่ใจที่พร้อมลุยไปกับคุณได้ในทุกสถานการณ์ ที่ CaseClub ได้คัดสรรพาวเวอร์แบงค์คุณภาพดี ดีไซน์สวยและผ่านมาตรฐานความปลอดภัยมาให้คุณเลือกช้อปอย่างสบายใจ รับรองว่าคุณจะได้อุปกรณ์คู่ใจที่ใช่และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่ออย่างแน่นอน!